เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 55 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดวังพิกุลวราราม ม.2 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก หลังทราบว่ามีพระภิกษุรูปหนึ่งเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ ต้องพักอาศัยอยู่ในกุฏิภายในวัดเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดูแลช่วยเหลือเบื้องต้นแต่อย่างใด พบพระเต โฆษธรรมโม อายุ 81 ปี นั่งอยู่ในกุฏิ สภาพที่ไม่สามารถลุกเดินเหินได้อย่างปกติทั่วไป เนื่องจากเป็นอัมพาตท่อนล่างขาทั้งสองข้าง
จากการสอบถามพระเต ทราบว่าบวชเป็นพระมาตั้งแต่อายุ 20 ปี จำพรรษามาแล้วหลาวัด ก่อนจะมาจำพรรษาที่วัดวังพิกุลวรารามหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยไม่มีเคยปัญหา สามารถไปไหนมาไหนได้ตามปกติ และรับกิจนิมนต์ของชาวบ้านได้ตลอดเวลา แต่เมื่ออช่วงปี 2551 ที่ผ่านมา ตนเริ่มมีอาการเจ็บที่หัวเข่า รู้สึกเจ็บและปวดตลอดเวลา เคยไปพบแพทย์ตามโรงพยาบาลหลายครั้ง แต่ไม่หายขาดโดยแพทย์ระบุว่าตนเป็นโรคกระดูกเสื่อมข้อตามวัย ช่วงแรกๆที่เป็นยังพอลุกเดินได้ จนกระทั่งผ่านไป 3 เดือนปรากฏว่าอาการเริ่มหนักขึ้น จนไม่สามารถลงขึ้นเดินได้อีกเลย ทำตนต้องนั่งอยู่แต่ภาพในกุฏิเพียงอย่างเดียว แต่ก็มีพระวัดเดียวกันมาดูแล ในเรื่องอาหารการกิน
พระศักดิ์ชัย สุจินโณ พระลูกวัดเดียวกัน เปิดเผยว่า พระเต หรือหลวงพ่อเต ที่ชาวบ้านเรียกกัน เพราะท่านมีอายุมากแล้ว แต่มาเป็นอัมพาตเมื่อสามสี่ปีที่ผ่านมา จนทำให้ไปไหนไม่ได้ ทุกวันหลังจากอาตมาบิณฑบาตกลับมาทุกเช้าก็จะนำอาหารมานั่งร่วมฉันกับหลวงตาเตทุกวัน เพราะหลวงตาเตไม่สามารถออกไปบิณฑบาตได้ และไม่สามารถรับกิจนิมนต์อีกเช่นกัน นอกจากเวลาทางวัดมีงานหรือพิธีสงฆ์ พระลูกวัดจะให้หลวงตาเตนั่งรถเข็น และอุ้มกันขึ้นไปบนศาลา เพราะไปร่วมสวดมนต์และร่วมพิธีทางสงฆ์
พระศักดิ์ชัย กล่าวว่า หลังจากหลวงตาเต เป็นอัมพาตเดินไม่ได้มานานหลายปี แต่ไม่เคยมีหน่วยงานของรัฐเข้าช่วยเหลือหรือดูแลเลยแม้แต่หน่วยงานเดียว โดยเฉพาะสิทธิที่จะได้รับจากรัฐบาล เรื่องเงินผู้พิการ เงินผู้สูงอายุ ไม่ทราบเหมือนกันว่า ทางหน่วยงานของรัฐยกเว้นเงินช่วยเหลือดังกล่าว เฉพาะพระสงฆ์หรืออย่างไร จึงอยากจะขอให้หน่วยงานรัฐดูแลพระสงฆ์บ้าง เพราะปัจจุบันพระสงฆ์ที่มีอายุมากเกิน 60 ปี และพระสงฆ์ที่พิการที่ยังบวชอยู่มีอีกจำนวนมาก ซึ่งถูกละเลยไม่ได้รับการช่วยเหลือเลย