วันที่ 21 มิถุนายน 2555 ที่บ้านพักนางเปรมฤดี ชามพูนท ได้เปิดแถลงสื่อมวลชนในพิษณุโลก กรณีคุณสมบัตินายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ที่มีผู้ร้องคัดค้านกับกกต.พิษณุโลก ว่านางเปรมฤดี ขาดคุณสมบัติเป็นผู้สมัคร เนื่องจากติดโทษทางการเมือง โดยนางเปรมฤดี ชามพูนท ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้มีการเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ครั้งใหม่ในวันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม 2555 และเปิดรับสมัครเลือกตั้งเป็น นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ระหว่างวันที่ 1-5 มิถุนายน 2555 ซึ่งหลังรับสมัครและได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัครเรียบร้อย ปรากฏว่ามีการยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลนครพิษณุโลก ในเรื่องคุณสมบัติของ ผู้สมัครหมายเลข 1 นางเปรมฤดี ชามพูนท อดีตนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก 5 สมัย แต่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลนครพิษณุโลกได้พิจารณาวินิจฉัยรับรองคุณสมบัติ ผู้สมัครหมายเลข 1 ให้เป็นผู้ที่สามารถสมัครรับเลือกตั้งได้
ต่อมา มีผู้ยื่นคำร้องคัดค้านคุณสมบัติ ผู้สมัครหมายเลข 1 นางเปรมฤดี ชามพูนท อีกครั้ง ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดพิษณุโลก โดยนายจำนงค์ จันทรา และว่าที่ ร.ต.ต.เสกสันต์ วัฒนกสิวิชช์ โดยอ้างว่า นางเปรมฤดี ชามพูนท อยู่ระหว่างถูกให้พ้นจากตำแหน่งยังไม่ถึง 5 ปี ซึ่ง กกต.จังหวัดพิษณุโลก ได้มีคำวินิจฉัยให้ยกคำร้องดังกล่าว เนื่องจากตามเอกสารหลักฐานที่ปรากฏ ผู้สมัครหมายเลข 1 นางเปรมฤดี ชามพูนท ได้กระทำการอันถือว่ามีส่วนได้เสียในสัญญาครั้งหลังสุดที่เป็นเหตุให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลกนั้น เป็นวันดำเนินการวันแรกคือวันที่ 6 มีนาคม 2550 จึงมีผลสิ้นสุดเวลา 5 ปีในวันที่ 6 มีนาคม 2555 และผู้สมัครหมายเลข 1 นางเปรมฤดี ชามพูนท ได้ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 1 มิถุนายน 2555 จึงพ้นระยะเวลาต้องห้ามตามกฎหมาย จึงถือว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลกได้
นางเปรมฤดี ชามพูนท ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก หมายเลข 1 กล่าวแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า ที่ผ่านมายืนยันว่าได้ทำตามกฎหมายมาโดยตลอด ไม่เคยดื้อดึงแข็งขืน ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานเพื่อบ้านเมืองมายาวนาน ในเรื่องของคุณสมบัติตามที่มีความพยายามร้องเรียน จะเห็นได้ว่า เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ทั้งเรื่องของศาลปกครองสูงสุด เรื่องของกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น และความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเคยมีการพิจารณาในลักษณะนี้มาแล้ว สามารถยืนยันได้ว่า ตนไม่ได้เป็นผู้ขาดคุณสมบัติตามที่มีผู้พยายามจะกล่าวอ้างและปล่อยข่าว สร้างกระแสให้ประชาชนสับสน ซึ่งหลังจากที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก กกต.จังหวัดพิษณุโลก ทำให้มั่นใจมากขึ้นว่า พี่น้องประชาชนจะมีความเข้าใจและรับรู้ในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
แสดงความคิดเห็น