เมื่อเวลา 01.10 น. วันที่ 15 มิ.ย. 55 พ.ต.อ.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผกก.สส.ภ.จว.พิษณุโลก ได้นำตัวนายสมบัติ หัสดี อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 691 ม.6 ต.ลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ มาทำการสอบสวน พร้อมทำการยึดของกลางพระพุทธรูปเนื้อทองเหลือง ขนาดหน้าตัก 29 นิ้ว มาตรวจสอบ พร้อมกับแจ้งให้เจ้าอาวาสวัดใหม่เกาะกลางตลุงมาดูของกลาง ปรากฏว่าเป็นพระพุทธรูปที่ถูกขโมยไปจากวัดจริง จึงได้ทำบันทึกมอบคืนวัดไป
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา พระสยาม วราโภ อายุ 50 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดใหม่เกาะกลางตลุง ม.6 ต.ไผ่ขอดอน อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้แจ้งความต่อ พ.ต.ต.สันตสิริ เมตตาวงศ์ สารวัตรเวรสภ.เมืองพิษณุโลก ว่าได้มีคนคนร้ายไปเข้าไปขโมยพระพุทธรูปภายในวัด จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 6 สอบสวนพระสยาม วราโภ อายุ 50 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดใหม่เกาะกลางตลุง ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าจำวัดอยู่เพียงรูปเดียว ช่วงเช้าวันเกิดเหตุ ไปรับกิจนิมนต์ร่วมงานศพในตัวเมืองพิษณุโลก โดยออกจากวัดตั้งแต่ 06.00 น. และกลับเข้ามาที่วัดเวลา 17.00น.ของวันเดียวกัน เมื่อมาถึงพบว่าประตูเหล็กด้านหน้าเปิดทิ้งเอาไว้ และประตูไม้ด้านหลังถูกคนร้ายใช้ของแข็งงัดเข้ามาในศาลาการเปรียญ ตรวจสอบทราบว่า พระพุทธรูปเนื้อทองเหลืองขนาด 29 นิ้ว อายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่หน้าประธาน หายไป นอกจากนั้นยังมีพระพุทธชินราชขนาด 5 นิ้วตั้งอยู่บนโต๊ะหมู่บูชาหายไปอีก 1 องค์
พระสยาม วราโภ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้าเคยมีคนร้ายเข้ามาลักพระพุทธรูปขนาดเดียวกันที่เก็บไว้ที่กุฏิหลังเก่าไป จำนวน 3 องค์ คือ พระโมคคัลา เนื้อทองเหลือง จำนวน 2 องค์ และพระประทานเนื้อทองเหลืองหน้าตัก 29 นิ้วอีก 1 องค์ หลังจากเกิดเหตุตนเองได้ย้ายพระพุทธชินราชที่เหลืออยู่มาไว้ที่ศาลาการเปรียญ และตนมาได้นอนเฝ้าทุกคืน แต่คนร้ายได้อาศัยช่วงที่ตนไม่อยู่วัดเข้ามาและลักพระพุทธรูปดังกล่าวไป
จากการสอบนายสมบัติ ให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพ เช่า บูชาแลกเปลี่ยนพระ และได้รับซื้อพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวมาจากนายสุ ไม่ทราบนามสกุลและชื่อจริง โดยนายสุขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จำได้เฉพาะหมวดจังหวัดกำแพงเพชร ได้บรรทุกพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวมาขายให้กับตนในราคา 8,000 บาท ที่บ้านเช่าเลขที่ 62/1 ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย โดยอ้างว่าเป็นพระพุทธรูปจากโรงงานที่ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ แต่ราคาในท้องตลาดไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท ตนเห็นว่าถูกกว่าจึงได้รับซื้อเอาไว้
สอบสวนเพิ่มเติม ทราบว่านายสมบัติรู้จักกับนายสุเมื่อกลางปี 2554 ที่แผงขายพระวัดราษฎร์บูรณะ จ.สุโขทัย โดยมีการนำพระมาขายให้กับนายสมบัติหลายครั้งแล้ว ครั้งแรกเป็นพระยืนขนาด 9 นิ้วมาขายในราคา 1,500 บาท จากนั้นนายสมบัติได้นำไปขายต่อให้กับคนอื่นในราคา 2,000 บาท ครั้งที่สองนำพระสังกัจจาย ขนาดหน้าตัก 5 นิ้วมาขายให้ ราคา 1,200 บาท และนายสมบัตินำไปขายต่ออีกทอดในราคา 2,000 บาท ครั้งที่สามนำพระพุทธรูปขนาดหน้า 29 นิ้ว องค์ดังกล่าวมาขายให้ในราคา 8,000 บาท กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามกลุ่มผู้รับซื้อของเก่าและพระพุทธรูป จนพบของกลางดังกล่าว จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน สารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงทำการควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในรอบปี 2555 มีเหตุการณ์คนร้ายขโมยพระพุทธรูปเกิดขึ้นบ่อยครั้งในเขตอ.เมืองพิษณุโลก วันที่ 27 มีนาคม 2555 ที่วัดบึงบ้านเก่า ม.12 ต.ดอนทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก คนร้ายก่อเหตุขโมยพระพุทธรูป ที่โต๊ะหมู่บูชา ศาลาการเปรียญของวัดบึงบ้านเก่า โจรใจบาปได้ขโมยพระพุทธรูปไป 2 องค์ ได้แก่ พระพุทธรูปชินราช หน้าตัก 9 นิ้ว และพระเชียงแสน หน้าตัก 5 นิ้ว เป็นพระเนื้อทองเหลืองและเนื้อสำริด วันที่ 6เมษายน 2555 ที่วัดหลวงพ่อแดง ม.2 ต.ไผ่ขอดอน อ.เมืองพิษณุโลก คนร้ายก่อเหตุขโมยพระพุทธรูป ขนาดหน้าตัก 12 นิ้ว จำนวน 4 องค์ ไปจาก บริเวณแท่นหน้าพระพุทธ ภายในศาลาธรรมสังเวช ภายในวัด และครั้งล่าสุดเมื่อ 3 มิถุนายน 2555 ครั้งนี้ ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกสามารถแกะรอยติดตามนำส่งคืนวัดเกาะกลางตลุงได้