โดย……คมดงเสือ
เมื่อถึงฤดูฝนคราใด ผมก็จะรู้สึกเริ่มเข้าสู่ความสมบูรณ์พูนสุข ของคนไทย เนื่องจากเป็นเวลาของการหากินของคนไทย หากฝนตกก็จะเริ่มทำนาตามฤดูกาล และผลพวงของฝนตกนั้นที่บ้านนา บ้านเรา ต.ดงเสือเหลือง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ชุ่มชื่น เป็นเวลาที่ทำนากันสักที แต่ช่วงเวลาว่างยามเย็นจนถึงค่ำ ที่บ้านเรา ก็จะเริ่มหาเขียดตามท้องทุ่ง มากินกัน เหมือนทุกปีที่ผ่านมา และปีนี้ก็เช่นกัน เขียดทอด ชาวบ้านกำลังกลับมานิยมรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย เรียกว่าหากันแทบไม่ทันทีเดียว
เมื่อปีที่ผ่านมา เขียดทอด ที่บ้านนา บ้านเรา แต่ละบ้านเมื่อพลบค่ำก็จะออกหาเขียดมาตากแดด แล้วทอดขาย หากเป็นเขียดสด ก็จะขายในราคา ก.ก.ละประมาณ 70-100 บาท แต่ถ้าทอด ราคาก็จะขายได้ถึง ก.ก.ละ 200 บาททีเดียว ซึ่งผมก็ได้นำมาให้ “เจ้าบอล” “เจ้าเอก” ที่ทำงานด้วยกันกิน เรียกว่าติดใจไม่น้อยทีเดียว และในปีนี้บ้านผมก็เริ่มหาเขียดมากินเหมือนทุกปี แต่ยังมีน้อยมาก ซึ่งหามากินได้อย่างเดียว แต่ถ้าจะขายนั้นยังไม่พอขายครับ เนื่องจากเขียดแถวบ้านยังมีไม่มาก
ผมกลับเมื่อกลางสัปดาห์ต้นเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ได้เห็นเขียดทอดในตู้กับข้าวที่บ้านเราหามา ผมจะไม่รีรอนำเขียดทอดมารับประทานกินเล่นและกับข้าวในมื้อเย็นทันที ผมบอกได้เลยว่ารสชาติของเขียดทอด ชั่งหอม กรอบ อร่อยมาก ฝีมือการทอดเขียดของที่บ้านเรา ไม่แตกต่างเลย เสียดาย ถ้ามีเยอะมากพอ ผมว่าจะนำกลับมาพิษณุโลก ฝากเพื่อนร่วมวิชาชีพอย่าง เฮียหมง เจ๊กุ้ง พี่เดชา ยอดเพชร เจ้าบอล เจ้าเอก เป็นแน่ เพราะพี่ๆเหล่านี้ผมเคยนำไปกินแล้ว เขาติดใจในรสชาติของเขียดทอดกรอบมาก
แต่ผมเชื่อว่าในปีนี้น้ำท่าดีเหมือนปีที่ผ่านมา (แต่ไม่ท่วมนะครับ) ซึ่งจะทำให้เขียดที่บ้านนา บ้านเรา น่าจะมีมากพอที่จะนำเขียดมาทอดกินที่พิษณุโลก ได้เป็นแน่ หากใครต้องการชิมรสชาติเขียดทอด ก็หากินกันได้ตามร้านขายแมลงทั่วไปครับ หรือไม่ก็ที่บ้านนา บ้านผมก็ได้ไม่ว่ากันครับ.
/////