วันนี้ 5 มิถุนายน 2555 ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก ประชาชนในจังหวัดพิษณุโลก เดินทางเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เพื่อป้องกันการได้อันตรายถึงชีวิตที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อน ต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจ และระบบอื่นๆ รวม 3 สายพันธุ์ คือ ชนิด เอ เอช 1 เอ็น 1(A H1N1) ชนิดเอ เอช 3 เอ็น 2 (A H3N2) และชนิดบี (B) ซึ่งเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่พบบ่อยในไทยและทั่วโลก เพื่อฉีดให้กลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม รวมทั้งหมด 3.55 ล้านคน โดยทางรัฐกำหนดให้ประชาชนรับวัคซีนฟรีได้ที่ โรงพยาบาลของรัฐและสถานพยาบาลเอกชนที่ร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 มิถุนายน – 30 กันยายน 2555
ซึ่งนายเภสัชกรเชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลมักระบาดในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะเดือน มิถุนายน ถึง กรกฎาคม ของทุกปีเพราะมีสภาวะอากาศอับชื้นและหนาวเย็น ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่ำลง จึงมีโอกาสติดโรคไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย ในแต่ละปีกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 7-9แสนราย ในจำนวนนี้มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม ต้องรับไว้โรงพยาบาลเกือบ 76,000 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -14 พฤษภาคม 2555 ทั่วประเทศมีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 11,380 ราย แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต
ซึ่งกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังไม่ให้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ หญิงมีครรภ์ คนอ้วน ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง ผู้พิการทางสมอง เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทำได้โดย การล้างมือบ่อย ๆ จนเป็นนิสัย ก่อนกินอาหาร ก่อนและหลังเตรียมหรือปรุงอาการ หลังการขับถ่าย หลังหยิบจับสิ่งสกปรก หลังสัมผัสผู้ป่วยหรือสัมผัสสัตว์เลี้ยง และทุกครั้งที่กลับจากนอกบ้าน ใช้ผ้าสะอาดปิดปาก ปิดจมูก เวลาไอ จาม และสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการใช้มือที่ไม่ได้ล้างสัมผัสบริเวณใบหน้าโดยเฉพาะตา จมูก ปาก หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยและอยู่ในสถานที่มีคนอยู่แออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก และการฉีดวัคซีนป้องกันตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งพบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นมา มีประชาชนในจังหวัดพิษณุโลก ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทยอยเริ่มเดินทางไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล แต่ยังไม่มากนัก
////