วันที่ 16 พฤษภาคม 2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีค่ายมวยไทยค่ายหนึ่งในพื้นที่ม.1 ต.ปากโทก อ.เมือง จ.พิษณุโลก เป็นค่ายมวยที่สอนศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้กับเด็ก ๆ ในหมู่บ้านมาได้ 5 ปีแล้ว และกำลังเป็นค่ายมวยที่โปรโมเตอร์จับตามองอย่างมาก มวยในสังกัด ออกสร้างผลงานอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นจากเพิงเล็ก ๆ เงินทุนไม่เท่าไหร่ และกำลังประสบปัญหาขาดแคลนเงินทุนในการเลี้ยงดูนักมวยที่มาอาศัยอยู่กินฝึกซ้อมที่บ้านพัก ในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ได้จัดศึกมวยไทยต้านภัยยาเสพติด เพื่อระดมทุนเข้าชมรมอนุรักษ์ศิลปะมวยไทยตำบลปากโทก ค่ายมวยนี้ชื่อค่ายมวย ศ.ตระกูลเหลา มีนายวันดี เหลาชิต อายุ 56 ปี เป็นเจ้าของค่ายมวย
นายวันดี เหลาชิต เจ้าของค่ายมวยศ.ตระกูลเหลา เล่าที่มาที่ไปของการมาเปิดค่ายมวยไทยที่บ้านปากโทก ว่า เพราะตนเองมีมวยไทยอยู่ในสายเลือด บั้นปลายชีวิต จึงขอใช้เวลาในการเปิดค่ายมวยฝึกสอนเยาวชนได้เรียนรู้ศิลปะมวยไทยแบบดั้งเดิม หรือ มวยไทยโบราณ โดยมาเปิดค่ายมวยที่บ้านปากโทกเมื่อปี 2551 ตั้งแต่ตนเองยังเช่าบ้านอยู่ แต่เริ่มต้นด้วยการเปิดค่ายมวยก่อนเลยเป็นอันดับแรก
นายวันดี เผยต่อว่า ในอดีต ตนเป็นคนจังหวัดราชบุรี และฝึกหัดชกมวยมาตั้งแต่เด็ก ขึ้นชกมวยหาเงินตามเวทีมวยต่างจังหวัดมาหลายปีร่วม 500 ครั้ง และได้เลิกราไป ในปี 2517 ได้มีโอกาสมาอาศัยอยู่จังหวัดพิษณุโลกระยะหนึ่ง กับภรรยาเก่า และเลิกรากันไปจากนั้น ตนเดินทางไปอาศัยที่ประเทศเยอรมันเมื่อปี 2522 ไปทำงานกับพี่สาวที่เปิดร้านอาหาร และมีภรรยาใหม่และลูกสาว 1 คน ระหว่างนั้นก็ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปตามโรงงานต่าง ๆ ที่เยอรมัน รับจ้างเป็นบอดี้การ์ดบ้าง รับฝึกหัดมวยไทยให้ชาวต่างชาติบ้าง กระทั่งปี 2551 ได้ลาพักงาน ขอกลับมาเที่ยวเมืองไทย 3 เดือน ก็กลับมาเที่ยวที่พิษณุโลก มีโอกาสมาพบเจ้าของที่ดินแปลงนี้ มีที่ติดจำนอง 3 ไร่ ช่วงนั้นมีเงินติดมาพอดี จึงตัดสินใจซ้อที่แห่งนี้ทันที และตัดสินใจว่า จะไม่กลับไปเยอรมันแล้ว บั้นปลายชีวิต ขอใช้เวลาที่เหลือ สอนศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้กับเด็ก ๆ ดีกว่า
และจากนั้นมาตั้งแต่ปี 2551 ได้เริ่มต้นทำค่ายมวยทันที เริ่มจากหาไม้มามุงหลังคาหญ้าคา และรับสอนศิลปะมวยไทยแบบโบราณให้กับเด็กในหมู่บ้าน ที่นับวัน การสอนแม่ไม้มวยไทยแบบโบราณ อาทิ มวยโคราช มวยไชยา เริ่มมีการสอนน้อยลง แต่ศิลปะมวยไทยโบราณนี้ เป็นพื้นฐานของมวยไทยอาชีพ และเป็นศิลปะการต่อสู้ของชนชาติไทยที่ควรค่าอนุรักษ์ไว้ ในช่วงระยะแรก ๆ ก็มีเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน สนใจมาเรียนมวยไทยกับตน หมุนเวียนกันไปบ้าง ปีละ 40-50 คน ปัจจุบัน มีมวยที่ฝึกซ้อมและสามารถขึ้นชกตามงานต่าง ๆ ได้จำนวน 12 คน อายุตั้งแต่ 9-18 ปี และมีอีกประมาณ 10 คน ที่ฝึกซ้อมอยู่
นายวันดี เผยต่อว่า เมื่อเริ่มทำค่ายมวยมาตนยังไม่มีบ้านอยู่ ยังต้องเช่าบ้านอยู่ ต่อมาลูกสาวที่อยู่เยอรมัน ส่งเงินมาให้ ก็นำมาปลูกบ้านพัก และเป็นสถานที่ให้นักมวยได้กินนอน อาศัยฝึกซ้อม มีทั้งเด็กในหมู่บ้าน และเด็กต่างจังหวัดที่ค่ายมวยนำมาฝากไว้ เพราะชอบนิสัยใจคอกัน
สำหรับการทำค่ายมวยศ.ตระกูลเหลานั้น นายวันดี ได้ไปจดทะเบียนค่ายมวย และทะเบียนเป็นโปรโมเตอร์จัดมวย กันการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดพิษณุโลก ( กกท.พิษณุโลก ) ที่ปัจจุบัน ในจังหวัดพิษณุโลกมีค่ายมวยจำนวน 30 ค่าย และโปรโมเตอร์ ที่สามารถจัดการแข่งขันได้อีก 9 ราย
ในการทำค่ายมวยนั้น วันดี เล่าว่า มีอุปสรรคด้านเงินทุนอยู่บ้าง ในแต่ละเดือน ลูกสาวตนที่อยู่ประเทศเยอรมัน ส่งเงินมาใช้ตนใช้เดือนละ 8,000-12,000 บาท ส่วนใหญ่แล้วก็จะตกอยู่ในเรื่องภาระการเลี้ยงดู การกินอยู่ ของนักมวยที่อยู่ประจำค่าย การส่งนักมวยไปขึ้นชก แม้จะได้เงินมาบ้าง แต่ก็ไม่มากนัก ปัจจัน นักมวยรุ่นใหญ่ที่มีอยู่ เริ่มขึ้นชกตามเวทีต่าง ๆ ได้ค่าตัวตั้งแต่ 5,000-8,000 บาท แล้วแต่สนามที่โปรโมเตอร์จัด ตนก็หักเปอร์เซ็นต์การชกไว้ แต่สุดท้ายก็ตกอยู่ในเรื่องการกินอยู่ของนักมวย ทุกวันนี้ที่ทำเพราะใจรัก ก็จะทำค่ายมวยไปเรื่อย ๆ อยากเผยแพร่และอรุรักษ์มวยไทยโบราณไว้ให้คงอยู่ จนกว่าจะไม่มีแรง
ด.ช.เอกราช โชติสุข นักเรียน ม.1 ร.ร.บ้านเนินหย่อง อ.แกลง จ.ระยอง กล่าวว่า ตนเองชอบกีฬามวยเป็นอย่างมาก และได้ยินชื่อครูมวยวันดี เหลาซิต เป็นครูมวยที่สอนมวยโบราณ ก็ขอพ่อและแม่เดินทางมาเรียนต่อยมวย เนื่องจากเป็นช่วงของปิดเทอมด้วย ซึ่งการฝึกซ้อมมวยนั้นนอกจากจะได้ออกกำลังกายที่ดีแล้ว ก็ยังสามารถเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวได้อีกด้วย
ด้าน ด.ช.ภูเบศร์ นาคศิริ อายุ 11 ปี เยาวชนในหมู่บ้านปากโทก หมู่ที่ 1 ต.ปากโทก อ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ตนเองได้อาศัยว่างจากเลิกเรียน มาฝึกซ้อมมวยกับครูวันดี เนื่องจากมีร่างกายแข็งแรงแล้ว อนาคตก็ยังเป็นอาชีพหารายได้ให้กับครอบครัวอีกด้วย
ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2555 นี้ ค่ายมวยศ.ตระกูลเหลา ได้ร่วมกับชาวบ้านม.1 ต.ปากโทก และอบต.ปากโทก จัดโครงการส่งเสริมการเรียนรู้และอนุรักษ์ศิลปะมวยไทยตำบลปากโทกประจำปี 2555 ในรายการ “ศึกต้านภัยยาเสพติด สมทบทุนชมรมอนุรักษ์ศิลปะมวยไทยตำบลปากโทก” ณ วัดไผ่ค่อมรัตนาราม ม.1 ต.ปากโทก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่เสลา 19.00 น.เป็นต้นไป วัตถุประสงค์เพื่อหากองทุนสำหรับเรียนรู้และอนุรักษ์ศิลปะมวยไทยของหมู่บ้านปากโทก โดยมีการจัดชกมวยคู่พิเศษจำนวน 14 คู่ และเปิดรับบริจาค ขายบัตรเข้าชมให้กับผู้เข้าร่วมงาน สำหรับท่านที่ประสงค์จะบริจาคเงินเข้าสมทบกองทุน สามารถส่งมาได้ที่บัญชีนายวันดี เหลาชิต ธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อย บิ๊กซี พิษณุโลก เลขที่ 645-0-18531-6 หรือโทรศัพท์ 084-5914570