วันที่ 15 พฤษภาคม 2555 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าปัญหา ผู้ปกครองนักเรียนกีฬามวยในสังกัดโรงเรียนกีฬาจังหวัดพิษณุโลก พาบุตรหลานมายื่นหนังสือลาออกจากโรงเรียนกีฬาจังหวัดพิษณุโลก เพื่อไปเรียนที่ใหม่ เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายผดุงชัย พันนุมา หรือ ครูชาติ ได้เดินทางมาพร้อมรถบรรทุกหกล้อของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ชัยนาท มาช่วยขนย้ายวัสดุอุปกรณ์ ของใช้ส่วนตัวของ นักเรียนกีฬามวยโรงเรียนกีฬาจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 19 คนจาก 24 คน ที่ตัดสินใจย้ายไปเรียนต่อที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ชัยนาท หลังจากที่ทางโรงเรียนได้ตอบรับว่าจะรับนักเรียนเข้าเรียนต่อ
ซึ่งนายผดุงชัย พันนุมา หรือ ครูชาติ กล่าวว่า การย้ายไปที่ใหม่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายในการที่เด็กเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญกับวงการกีฬามวยของจังหวัดพิษณุโลก เพราะนักเรียนแต่ละคนมีผลงานและฝีมือที่ดี สร้างชื่อให้กับจังหวัดมาเกือบทุกปี เช่นการคว้าเหรียญทองกีฬามวยสมัครเล่นเยาวชนแห่งชาติ รางวัลนักชกยอดเยี่ยมตั้งแต่ปี 53 เป็นต้นมา แต่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด เพราะในรอบ 1- 2 ปี นักเรียนเหล่านี้น่าจะมีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์เสริมสร้างทักษะการแข่งขันให้มากขึ้นและน่าจะมีพัฒนาการที่ดีกว่านี้ แต่มาติดปัญหาที่ผ่านมาทั้งเรื่องอาหาร การพักผ่อน รวมถึงการส่งเสริมโอกาสของเด็กๆที่จะแสดงฝีมือ ซึ่งเมื่อย้ายไปที่ใหม่เด็กเหล่านี้น่าจะมีโอกาสมากกว่าที่เป็นเช่นทุกวันนี้
เรื่องดังกล่าว ทางด้านองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก โดยทาง ดร.จิรัฏฐ์ สันติวงษ์สกุล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้ออกมาชี้แจง ว่า ปัญหาดังกล่าวในเรื่องของการส่งเสริมนักกีฬาออกไปแข่งขันตามรายการต่างๆ ที่จริงทางอบจ.พิษณุโลก พร้อมที่จะสนับสนุน แต่ก็ต้องมีการคัดเลือก เพื่อที่การแข่งขันจะได้ไม่มาฉุดการเรียนของนักเรียน จึงได้มีการยกเลิกงบสนับสนุนบางการแข่งขัน เพื่อให้เด็กได้มีเวลาเรียนหนังสือตามหลักสูตรได้ทัน ไม่ใช่มุ่งแต่แข่งขันจนไม่มีความรู้ แต่ในปีนี้ทางอบจ.พิษณุโลก ได้มีการสนับสนุนงบเพิ่มขึ้นเรื่องของสถานที่อาคาร รวมทั้งอุปกรณ์ ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับนักเรียน ส่วนเรื่องการเดินเรียนหรือไปกลับที่จริงแล้วเรื่องนี้มีการประชุมในที่สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ก็ได้มีการอนุมัติ ทั้งนี้มาจากปัญหาที่โรงเรียนมีลักษณะเป็นโรงเรียนเปิดเด็กอยู่ในวัยซนมักไม่เชื่อฟัง เมื่อมากินนอนก็จะพากันหนีเที่ยว บางครั้งครูผู้ดูแลไม่สามารถดูแลทั่วถึง ในที่ประชุมสภาฯจึงมีมติปรับนโยบายให้นักเรียนที่เข้ามาเรียนเปลี่ยนเป็นแบบเดินเรียนหรือไปกลับ ส่วนนักเรียนที่เข้ามาก่อนก็ยังเป็นแบบกินนอนจนกว่าจบการศึกษา และเมื่อโรงเรียนมีสถานที่และความพร้อมก็จะกลับมาใช้นโยบายเดิมคือรับนักเรียนแบบกินนอนอีกครั้ง ส่วนปัญหาในเรื่องสถานที่ตอนนี้ก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและแก้ไขในเรื่องความสะอาด และพื้นที่ไหนชำรุด อย่างห้องน้ำก็ให้แก้ไข
ด้านนายธรรมนูญ คงระเรื่อย ผู้อำนวยโรงเรียนกีฬาจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า เรื่องการย้ายโรงเรียนของนักเรียน ทางตนไม่ได้ขัดข้องเป็นสิทธิ์ที่ทำได้แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามขั้นตอน ส่วนเรื่องที่ว่าอาหารที่รับประทานไม่ได้ตามหลักนั้นอาจเป็นความเข้าใจผิดของผู้ปกครอง เพราะโรงเรียนปิดภาคเรียนตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม เป็นต้นมา และจะเปิดอีกครั้งในวันที่ 16 พ.ค.นี้ ซึ่งช่วงดังกล่าวทางโรงเรียนจะให้ผุ้ปกครองมารับบุตรหลานกลับไปอยู่ในความดูแล จะไม่มีการเลี้ยงอาหารแต่อย่างไร แต่กลับพบว่า เด็กนักกีฬามวยยังอยู่ที่โรงเรียนเมื่อสอบถามก็บอกว่าอาศัยอยู่กับครูผู้ฝึกสอน โดยไปอาศัยอยู่ใต้อาคาร ทั้งที่จริงทางโรงเรียนมีอาคารหอพัก คือ อาคารชมพูพันธุ์ทิพท์ มีห้องมีเตียงให้นักเรียนได้พัก แต่ในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาทางกองทัพบก มาขอใช้อาคาร เพื่อเป็นที่พักนักกีฬาที่มาแข็งขัน จึงขอชี้แจงว่าเป็นเรื่องของกลุ่มนักเรียนและโค๊ชเองที่สมัครใจใช้พื้นที่ในโรงเรียนกีฬาต่อ เหตุที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่ความผิดของทางโรงเรียนว่าไม่ดูแลเด็กนักเรียนตามข่าว
ส่วนเด็กนักเรียนที่มีความประสงค์จะขอย้ายโรงเรียนทางเราก็ไม่ขัดข้องถ้าคิดว่าย้ายไปแล้วทำให้ดีขึ้นหรือเจริญก้าวหน้ากว่าที่เป็นอยู่ ในฐานะที่ตนก็เป็นคุณครูคนหนึ่งก็มีความรู้สึกเป็นห่วงและสงสารเด็ก ๆ เนื่องจากการย้ายสถานศึกษาบ่อย ๆ ไม่ใช่ผลดีและไม่ได้เป็นประโยชน์กับตัวเด็กเอง เกรงว่าจะไม่ประสบความสำเร็จในการศึกษาเล่าเรียนเพราะการศึกษาต้องควบคู่ไปกับการกีฬาด้วย ขณะนี้ทางโรงเรียนกีฬา ๆ เรากำลังพัฒนาพร้อมปรับปรุงแก้ไขในทุกด้านให้ดียิ่งขึ้น ๆ ไป