กลางดึกของค่ำคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีคนถูกรุมไล่ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะหลบหนีไปซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนบรมไตรฯ 2 มุ่งหน้าไปไฟแดงหนองอ้อ ใกล้เคียงทางเข้าวัดใหม่พันปี หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่พร้อมสายตรวจรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธธิประสาทบุญสถาน พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือนายปรีชา นุชมี อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/182 ม.2 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก นั่งพักอยู่หน้าบ้านเลขที่ 1115 ถ.บรมไตรฯ 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลกสภาพบาดแผลตาม ร่างกายพบแผลถูกของแข็งตีเข้าที่ศีรษะด้านหลังถูกของมีคมแทงลึก และบริเวณท้ายทอยและทั่วแผนหลังมีรอยถูกตีเป็นรอยฟกช้ำ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 เอส สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ขนท 241 พิษณุโลก ล้มคว่ำอยู่ในพงหญ้าข้างถนนตรวจสอบเป็นรถจักรยานยนต์ของผู้ได้รับบาดเจ็บ ใกล้กันบนพื้นถนนพบกรรไกรขนาดใหญ่ด้ามสีแดงตกอยู่และบริเวณเกาะกลางถนนใกล้เคียงจุดเกิดเหตุพบ่อนไม้ตกอยู่เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นายปรีชา ผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ขณะที่ตนขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางกลับที่พักและขับขี่มาถึงที่เกิดเหตุ ตนเห็นว่ามีผู้หญิงสวมเสื้อยืดสีขาวยืนอยู่ริมถนนโบกมือคล้ายขอความช่วยเหลือ ตนเห็นจึงจอดรถโดยไม่ดับเครื่องยนต์เพื่อสอบถาม โดยผู้หญิงคนดังกล่าวได้สอบถามว่าจะขี่รถไปข้างหน้าหรือเปล่า ขณะที่จอดรถจักรยานยนต์สอบถามอยู่นั้นตนสังเกตุเห็นว่ามีคนร้ายเป็นชายจำนวน 3 คน วิ่งออกมาจากมุมมืดจากด้านหลังพร้อมกับใช้ไม้ตีที่บริเวณศีรษะและมีคนเข้ามารุมชกต่อยใช้ขวดและอาวุธทำร้าย ตนจึงต้องวิ่งหนี และทิ้งรถจักรยานยนต์ข้ามเกาะกลางถนนเพื่อเอาตัวรอดพร้อมตระโกนร้องขอความช่วยเหลือจากประชาชนละแวกนั้น และได้ยินเสียหนึ่งในคนร้ายตระโกนบอกว่าให้เอารถจักรยานยนต์ไป ส่วนคนร้าย 2 คนได้ขี่รถจักรยานต์ไปดักข้างหน้าหวังทำร้าย แต่มีชาวบ้านในละแวกจุดเกิดเหตุได้เปิดไฟจนสว่าง ทำให้คนร้ายทั้งหมดขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีกันไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางมาถึง
จากการสอบถามผู้ได้รับบาดเจ็บเจ้าหนี้ที่ตำรวจสันนิษฐานว่า กลุ่มคนร้ายเป็นแก็งชิงทรัพย์จากเหยื่อ โดยก่อนเกิดเหตุ ได้ซุ่มอยู่ในมุมมืดแล้วให้ผู้หญิงเป็นนกต่อ คนคอยโบกคนขี้รถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ผ่านไปมาเพื่อที่จะให้จอดรถ จากนั้น ก็เข้าทำร้ายเหยื่อ และชิงทรัพย์จากเหยื่อ ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายราย แต่รายนี้ได้มีชาวบ้านช่วยเหลือได้ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหากลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายเพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับประชาชนรายอื่นต่อไป
/////