เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันนี้( 1 พ.ค.) นายประภาส คงแตง นายอำเภอเนินมะปราง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วย นายมานพ สายอุ่นใจ นายมานพ สายอุ่นใจ หัวหน้าฝ่ายยุทธการที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ และหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการณ์ยุทธการแก้ไขวิกฤติแห่งชาติที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 เจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่า พล.5 พันชาลี และกำลังกว่า 20 นาย เข้าตรวจสอบผู้ลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแหล่งชาติลุ่มน้ำวังทองฝั่งซ้าย หมู่ 4 บ้านวังโพรง ต.วังโพรง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก หลังจากมีชาวบ้านร้องเรียนว่ามีผู้ลักลอบตัดไม้ตามใบสั่งนายทุน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าไปตรวจสอบ และจากการตรวจสอบพบนายทองคูน ทองมี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 หมู่ 3 ต.วังโพรง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก กำลังแปรรูปไม้ประดู่ในบริเวณสวนป่าสักหลังบ้านของนางเมตตา มั่งคงดี อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 / 1 หมู่ 4 ต.วังโพรง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก จากการตรวจสอบพบว่านางเมตตา มั่งคงดี เป็นเจ้าของไม้ดังกล่าว และได้ว่างจ้างนายทองคูน มาแปรรูปไม้ เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมทั้งสองคนทันที
นายประภาส คงแตง นายอำเภอเนินมะปราง กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า ได้มีขบวนการตัดไม้ ตามออร์เดอร์ของนายทุน ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำวังทองฝั่งซ้าย ต.วังโพรง อ.เนินมะปราง ซึ่งหลังจากการตรวจสอบและสามารถจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ในที่สุด พร้อมกับของกลางเป็นไม้ประดู่ จำนวน 77 ท่อน บางท่อนก็มีขนาดใหญ่ เส้นรอบวง กว่า 2 เมตร และไม้กระยาเลยอีกจำนวนหนึ่ง รวมปริมาตร 6 คิว ราคาประมาณ 200,000 บาท ซึ่งหากจากการตรวจสอบนั้นเชื่อมีผู้ลักลอบขบวนการนี้ไม่ต่ำกว่า 5 คน และจะต้องมีการขนไม้ส่งให้กับนายทุนไปบ้างแล้ว เนื่องจากมีการแปรรูปไม้เป็นแผ่น เหลือแต่เปลือกไม้จำนวนมาก แต่กลับไม่มีไม้แปรรูปดังกล่าวเลย ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนและติดตามกลุ่มนายทุนอีกครั้ง
ด้านนางเมตตา ผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่า เป็นเจ้าของไม้จริง แต่ได้ไม้เหล่านี้มาจากคนรู้จักกันอีกหมู่บ้าน โดยเขามอบให้มา เพื่อมาสร้างบ้าน แต่ก็กลับถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุม โดยไม่ทราบตนเองทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบ้านของนางเมตตา ที่อยู่ด้านหน้าที่เกิดเหตุพบว่ามีเลื่อยยนต์อีก 1 เครื่องและมีการกางเต้นนอน อยู่ด้านข้างบริเวณที่เกิดเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่านายทองคูน มารับจ้างตัดไม้มานานแล้ว นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ยังได้ขยายผล จับกุมผู้ที่ลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำวังทองฝั่งซ้าย หมู่ 5 ต.วังโพรง อีกแห่งหนึ่ง ปรากฏว่าพบแต่ตอไม้ประดู่อีกจำนวนหนึ่ง แต่พบผู้ต้องหาแต่อย่างใด
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งสองคนในข้อหาครอบครองและทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 11, ทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามมาตรา 14, ครอบครองไม้หวงห้าม แปรรูปโดยใช้ไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 48, มีไม้ท่อนหวงห้าม โดยไม่ได้อนุญาต ตามมาตรา 69 , รับไม้ประการใด ซึ่งไม้ที่พึงรู้ว่าเป็นไม้ที่ได้มาด้วยการกระทำผิด มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น ตามมาตรา 70
///////////