เมื่อ13.00 น.วันที่ 30 เม.ย.พ.ต.ต.สันตสิริ เมตตาวงศ์ พนักงานสอบสวน(สบ.1) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้บ้านพักข้าราชการเลขที่ 176 หมู่ 5 ต.บ้านคลอง อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งเหตุเกิดภายในสำนักงานสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งเหตุจึงรุดไปทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานขอรถดับเพลิงและรถน้ำ จาก อบต.บ้านคลอง และ เทศบาลตำบลพลายชุมพล อบต.อรัญญิก พร้อมด้วยรถดับเพลิงของจังหวัดทหารบกพิษณุโลก จำนวน 5 คัน เข้าทำการควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด และบ้านเกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น จึงทำให้เพลิงลุกไหม้ และลุกลามไปยังบ้านข้างเคียงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเร่งฉีดน้ำเลี้ยงเพื่อสกัดกั้นเพลิงโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการสอบสวนทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านพักข้าราชการ ของสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย ( สวท.) โดยมี นายวิม ศรสุด อายุ 57 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งช่างไฟฟ้าสื่อสารชำนาญการ เป็นผู้อยู่อาศัย ขณะเกิดไม่มีผู้ใดอยู่บ้าน และเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเกิดจากสภาวะอากาศที่ร้อนจัด จนทำให้ระบบสายไฟฟ้าภายในบ้านพัก ที่เก่ากว่า 30 ปี เกิดชำรุด เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด จึงทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร เป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ซึ่งอย่างไรก็ตาม คงต้องรอผลการตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้ง จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเขต6 พิษณุโลก เข้าทำการตรวจสอลบหาสาเหตุอีกครั้ง
ด้านนายวิม เจ้าของบ้านเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่อยู่บ้าน โดยได้ออกไปทำงานภายในสำนักงานสวท.ตั้งแต่เวลา 08.30 น. โดยปิดบ้านพักไว้ตามปกติ จากนั้นก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้วิ่งไปตามแจ้งให้ทราบว่าบ้านพักของตนเองถูกเพลิงลุกไหม้ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประสานรถดับเพลิงมาช่วยดับไฟแต่ก็ไม่ทันการด้วยสภาพบ้านซึ่งเป็นบ้านไม้ที่เก่ามากและสภาพอากาศที่แล้งจัดทำให้ไฟลุกไหม้ทั้งหลังอย่างรวดเร็ว
อีกรายไฟลุกไหม้เสาไฟฟ้าแรงสูง เมื่อเวลา 14.30 น. ที่บริเวณเสาไฟฟ้าริมถนนสายพิษณุโลก หล่มสัก บิรเวณสามแยกเรือนแพ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ที่บริเวณยอดเสาไฟ ซึ่งมีสายไฟ และสายโทรศัพท์ สายเคเบิ้ล จำนวนมาก พาดผ่านอย่างไม่เป็นระเบียบ จู่ๆเกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร มีไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนทำให้ประชาชนในระแวกนั้นต่างตกใจ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานขอรถดับเพลิง และรถน้ำ จากเทศบาลนครพิษณุโลก พร้อมกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าพร้อมรถกระเช้าเข้ามาทำการควบคุมเพลิง โดยสะเก็ดเพลิงยังได้กระเด็นมาติดที่บริเวณกอหญ้าด้านล่าง จึงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ฉีดน้ำดับควบคุมเพลิงที่บริเวณป่าหญ้า ส่วนด้านบนเสาไฟฟ้านั้น ทางเจ้าหน้าที่ขึ้นรถกระเช้า แล้วใช้โฟมฉีดเพื่อทำการควบคุมเพลิง
โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดไฟลุกไหม้ เห็นประกายไฟลุกไหม้ที่บริเวณสายไฟบนยอดเสาไฟฟ้า และลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ขยายวงกว้าง ก่อนลุกลามลงมาติดกอหญ้าด้านล่าง จนขยายวงกว้าง
จึงเชื่อว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นนี้อาจเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดอย่างต่อเนื่องจึงทำให้สายไฟต่างๆ เกิดเสื่อมสภาพและเกิดการลัดวงจรจนทำให้เกิดความร้อนลุกติดไฟ จนเกิดความเสียหายในครั้งนี้.
/////