วันที่ 26 เมษายน 2555 ที่อบต.หนองกระท้าว อ.นครไทย พิษณุโลก บริษัท ทวินซ่า ออยล์ ลิมิเต็ด บริษัท โปรเอ็น เท็คโนโลยี่ จำกัด และกระทรวงพลังงานได้เดินทางมาเปิดประชาพิจารณ์ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ต.หนองกะท้าว เนื่องจากได้รับสัปทานปิโตรเลี่ยม เลขที่ 13/2550/89โดยมีประชาชนในพื้นที่มารับฟังจำนวนหนึ่งและจะไปรับฟังประชาพิจารณ์อีกพื้นที่บ้านน้ำตาก หมู่ 17 ต.หนองกะท้าว พื้นที่เตรียมการตั้งแท่นเจาะสำรวจในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้
Mr.John Booth ตำแหน่ง Exploration Manager (ผู้จัดการฝ่ายสำรวจ) บริษัท ทวินซ่า ออยล์ ลิมิเต็ด เปิดเผยว่า ตนและทีมงานทวินซ่า ออยล์ ลิมิเต็ด มาวันนี้เพื่อทำประชาพิจารณ์รับฟังปัญหาของคนในพื้นที่ ต..หนองกระท้าว อ.นครไทย พิษณุโลกเป็นครั้งที่ 2 เพื่อประเมินว่าคนในพื้นที่ตอบรับ และประชาชนมีความเห็นด้วยกับโครงการสำรวจปิโตรเลียมอย่างไร เพื่อทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหากรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่าน คาดว่าสิ้นฤดูฝนของปีนี้ จึงจะเริ่มดำเนินการขุดเจาะหาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งวิธีการนั้น จะต้องเจาะลงไปใต้พื้นที่ระดับ 1,700 เมตร ผ่านลงไปใต้ชั้นหินจำนวน 3 ชั้น คือ หินทราย โคลน และหินปูน ซึ่งจะต้องเจอน้ำมันดิบในขั้นแรก แต่เราจะไม่เอา เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบมีน้อย แต่เป้าหมายหลักของทวิน ซ่า คือการขุดเจาะหาก๊าซธรรมชาติ ที่คาดการณ์ว่าจะมี จำนวน 215 พันล้านลูกบาศ์กฟุต โดยเป็นก๊าซธรรมชาติ หรือ NGV
จากนั้นค่อยมาประเมินความคุ้มค่าอีกครั้งว่า จะดำเนินการขนส่งด้วยรถยนต์ หรือ ต่อท่อไปยังแหล่งน้ำมันสิริกิติ์ อ.ลานกระบือ จ.;กำแพงเพชร คาดว่า จะมีปริมาณก๊าซสามารถให้ขุดได้ในระยะ 20 ปี โดยใน 5 ปีแรก จะมีการประเมินคุณภาพ ระยะต่อไปจะมีการนำก๊าซขึ้นมาใช้ ที่คาดการณ์ว่าจะใช้ได้ประมาณ 20 ปี
Mr.John Booth Exploration Manager เปิดเผยอีกว่า กรณีหลุมไฟ หมู่ 9 หนองกระท้าว อ,นครไทย ที่ปรากฏเป็นข่าว ก็อยากรู้และจะไปดูตนไม่สามารถตอบได้ ต้องรอกรมทรัพย์ธรณีวิทยา แต่บอกเพียงเบื้องต้นว่า ถ้าเป็นก๊าซ จะขุดเจาะผ่านชั้นหินที่หนา จำนวน 3 ชั้นดินโดยให้แรงดัน อัดลงไป เพื่อเอาก๊าซขึ้นมา และจุดหลุมไฟนั้นไม่มีก๊าซ และไม่น่าเกี่ยว เพราะจุดที่วางเป้าหมายขุดเจาะนั้น ห่างจากจุดเกิดไฟลุก 20 กิโลเมตร จึงไม่เชื่อว่าบริเวณหลุมไฟจะมีก๊าซอะไร แต่สงสัยเป็นการสะสมเศษขี้เลื่อยลักษณะดังกล่าวนี้ ประเทศอินโดนิเชียก็เคยเกิดขึ้นเหมือนกัน เดี๋ยวก็ดับไปเอง
บริษัททวินซ่า ออยล์ ลิมิเต็ด ได้รับอนุมัติสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 13/2559/89 ครอบคลุมแปลงสำรวจบนบกหมายเลข L7/50 จากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเมื่อ 19 ธันวาคม 2550 หลังได้รับสัมปทาน บริษัททวินซ่าฯ ได้ดำเนินการสำรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนแบบสองมิติ เพื่อตรวจสอบและยืนยันลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยาและลำดับชั้นหินในแหล่งกักเก็บ คลอบคลุมพื้นที่อำเภอชาติตระการ อำเภอนครไทย อำเภอวังทอง และอำเภอวัดโบสถ์จังหวัดพิษณุโลก ผลการศึกษาโครงสร้างทางธรณีวิทยาดังกล่าว ได้ข้อมูลสนับสนุนที่ชัดเจนเพียงพอต่อการวางแผนเจาะสำรวจปิโตรเลียม จึงกำหนดการเจาะสำรวจผ่านฐานเจาะ 1 แห่ง ตำแหน่งที่ตั้งฐานเจาะตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.17 บ้านน้ำตาก ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ตั้งอยู่บนเนินเขาปานกลาง อยู่ห่างจากจุดที่เกิดไฟลุกใต้ดิน ม.9 บ้านเนินตะโพน ต.หนองกะท้าว มาทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร
ในระหว่างนี้ บริษัท ทวินซ่าฯ ได้ว่าจ้างบริษัท โปร เอ็นเทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบทำรายงายผลกระทบสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 2 จากนั้น จะนำร่างรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อนเสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณา หากผ่าน ก็จะเริ่มดำเนินการเดินเครื่องแท่นขุดเจาะในปลายปี 2555 นี้
ด้านนายธงชัย จันทร์เครื่อง นักธรณีวิทยา กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การเดินทางมา อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เพื่อทำประชาพิจารณ์ประชาชนก่อนดำเนินการเจาะสำรวจปิโตเลียมในพื้นที่ดังกล่าว สำหรับหลุมที่ อ.นครไทย จากการประมาณการในเบื้องต้นคาดว่าหากมีการเจาะสำรวจจะพบก๊าซธรรมชาติในปริมาณ 215พันล้านลูกบาศก์ฟุต ส่วนน้ำมันคาดว่าไม่น่ามีในบริเวณนี้ คงต้องรอผ่านผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและลงมือเจาะพิสูจน์ ซึ่งการขุดเจาะบางครั้งก็ไม่พบ แต่ที่ จ.พิษณุโลก เป็นหลุ่มสำรวจปิโตรเลี่ยมที่มีโอกาสพบเจอ 50 : 50 หลุมสำรวจในเมืองไทยยังมีความเสี่ยงมาก ยกตัวอย่างที่พึ่งเจาะสำรวจพื้นที่ภาคอีสาน 5 หลุมขุดเจอเพียง 1 หลุมเท่านั้นขณะที่ค่าใช้จ่ายขุดเจาะ 5 หลุม สูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นเงินไทยประมาณ 3,000 ล้านบาท เช่นเดีนวกันเวลานี้แม้มีการสำรวจผลผระทบผ่านแล้วโอกาสเสี่ยงที่จะได้เจอก๊าซหรือน้ำมันก็ยังมีอยู่ เพราะไม่มีการเจาะสำรวจปิโตรเลียมที่ อ.นครไทยมาก่อน หลุมนี้เป็นหลุมแรกจึงยังไม่สามารถบอกมูลค่าทางพาณิชย์ได้ แตกต่างจาก อ.ลานกระลือ จ.กำแพงเพชร ที่มีการเจาะสำรวจเป็น 1,000 หลุ่มจนได้ทั้งก๊าซและน้ำมัน
แสดงความคิดเห็น