สืบเนื่องจาก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ได้ส่งผลกระทบทำให้เกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ขึ้นหลายแห่งทั่วโลก สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตของชาวโลกเหลือคณานับ ซึ่งสาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงก็คือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยน้ำมือของมนุษย์พวกเรา ซึ่งทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นและมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆถ้าหากปล่อยไว้อย่างนี้โดยที่ไม่มีการสร้างองค์ความรู้ให้กับชุมชนและสังคมในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมแล้ว แน่นอนที่สุดว่าประเทศไทยซึ่งเป็นสิ่งที่รักของเราทุกคน ก็จะตกอยู่ภายใต้อันตรายมหาศาล ดังจะเห็นได้จากภัยธรรมชาติในระยะหลังที่มีความรุนแรงมากกว่าปกติ อาทิ อุทกภัยที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ภัยแล้ง ไฟป่า และโรคระบาด ในหลายพื้นที่
ด้วยความสำนึกและตระหนักถึงภัยคุกคามรูปแบบใหม่ “โลกร้อน” กองบิน 46 จึงได้จัดทำโครงการ WING 46 Green Community “กองบิน 46 ชุมชนสีเขียว”เพื่อเป็นการให้สมาชิกที่เป็นทหารและครอบครัวในชุมชนรู้และเข้าใจเรื่องโลกร้อนและสร้างจิตสำนึกในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน ตระหนักถึงการช่วยลดภาวะโลกร้อน และการรักษาแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ไว้ให้ลูกหลานสร้างจิตสำนึกในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างรับผิดชอบสร้างแนวทางในการจัดการสิ่งแวดล้อม สร้างรายได้เสริม ลดรายจ่ายลดมลพิษที่มีต่อชุมชน ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ตระหนักถึงการช่วยลดภาวะโลกร้อน สร้างสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่ปลูกฝังทัศนคติสีเขียว และแนวคิดรักษ์โลก
สร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับกองทัพอากาศและกองทัพไทย ในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม อนุรักษ์พลังงาน ส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและสังคมกองบิน 46 มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านชุมชนสีเขียวในระดับกลาโหมและพร้อมที่จะก้าวสู่ระดับประเทศ โดยมีส่วนร่วมในการปฏิบัติตามแนวทางลดภาวะโลกร้อน ลดปัญหามลภาวะที่มีต่อประเทศนอกจากนั้นยังเพิ่มความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สร้างสิ่งแวดล้อมที่ น่าอยู่ให้กับชุมชน รวมทั้งเป็นแหล่งการเรียนรู้ การจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยพร้อมที่จะเผยแพร่และถ่ายทอดแนวทางปฏิบัติ การเรียนรู้วิธีการรับมือกับโลกร้อน สร้างองค์ความรู้ ต่อชุมชนและสังคม เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญในการรักษาสมดุลธรรมชาติ และยังเป็นการสร้างภาพพจน์ ที่ดีให้กับกองทัพอากาศและกองทัพไทย อีกด้วย
จากการที่กองบิน 46 นำเสนอทางเลือกในการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมด้านต่างๆ เพื่อบรรเทาภาวะโลกร้อน ซึ่งทุกเรื่องของกองบิน 46 สามารถนำมาปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวันของแต่ละคน ถึงแม้ว่าทางเลือกเหล่านี้จะเป็นกิจกรรมที่เกิดภายในชุมชนเล็กๆของกองบิน 46 แต่แนวทางเหล่านี้อาจจะเป็น “ความหวัง” เป็นทางออก ที่จะรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงความอุดมสมบูรณ์ เป็นมรดกต่อลูกหลานในอนาคต
กองบิน 46 ได้จัดเตรียมพื้นที่การเกษตร เพื่อจัดสรรให้กับข้าราชการที่สนใจ เข้าร่วมโครงการสวนเกษตรพอเพียง โดยนำผลผลิตน้ำมันไบโอดีเซลที่ผลิตได้บางส่วน มาใช้ประโยชน์ในการปรับพื้นที่ ซึ่งนอกจากจะเป็นพลังงานสะอาดช่วยลดมลพิษที่เกิดจากการเผาผลาญฟอสซิลแล้ว ยังมีประโยชน์ด้านเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับ คือช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับข้าราชการอีกด้วยจะเห็นได้ว่า จากโครงการไบโอดีเซลกองบิน 46 ได้ขยายต่อยอด เป็นสวนเกษตรพอเพียง ทั้งในระดับกองพันฯ กองร้อยฯ จนถึงระดับข้าราชการชั้นผู้น้อย ได้ใช้ประโยชน์จากน้ำมันไบโอดีเซลที่ใช้ชีวิต ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง
น.อ. ฐากูร นาครทรรพรองผู้บังคับการกองบิน 46 กล่าวว่ากองบิน 46 มีแนวคิดในการอนุรักษ์ 5 ด้าน ซึ่งประกอบด้วย การอนุรักษ์ดิน อนุรักษ์ต้นไม้ อนุรักษ์น้ำ อนุรักษ์อากาศและอนุรักษ์พลังงาน โดยกิจกรรมประกอบด้วยในทุกวันพุธ ของทุกสัปดาห์ นับตั้งแต่เวลา 07.30 น. ข้าราชการ ลูกจ้าง ในสังกัด กองบิน 46 จะนำจักรยานกว่า 100 คัน มารวมตัวกันหน้าสโมสรกองบิน 46ซึ่งเป็นศูนย์กลางบ้านพักข้าราชการทหาร ก่อนปั่นจักรยานเดินทางไปสถานที่ทำงานที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 5-8 กิโลเมตร ซึ่งการปั่นจักรยานเป็นหนึ่งในโครงการชุมชนสีเขียว ที่เป็นประโยชน์ ช่วยให้ข้าราชการทหารกองบิน 46 ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง ที่ต้องใช้เติมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ลดรายจ่าย และช่วยลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ที่สำคัญ ทหารในสังกัดกองบิน 46ยัง สุขภาพแข็งแรงเพราะได้ออกกำลังกายยามเช้าก่อนเข้าทำงาน
นอกจากนี้ ทางกองบิน 46 ได้ทำการรวบรวมน้ำมันพืชเหลือใช้ภายในครัวเรือน นำมาผลิตเป็นไบโอดีเซล โดยมีกำลังการผลิตเฉลี่ย เดือนละ 10,000-30,000 ลิตร โดยมีเป้าหมายการผลิตให้ได้ 84,000 ลิตรเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา ซึ่งโครงการนี้ปรากฏว่าได้ช่วยให้ทางเจ้าหน้าที่สามารถนำไบโอดีเซลที่ผลินได้ไปใช้กับเครื่องจักรกล ไปพัฒนาพื้นที่ และต่อยอดการทำโครงการ สวนเกษตรพอเพียง โดยให้ทุกหน่วยงานได้จัดทำงานเกษตรบริเวณพื้นที่ว่างในหน่วยงาน จัดแปลงเกษตรปลุกพืชผักสวนครัวนำมาประกอบอาหารกลางวันรับประทาน และที่เหลือนำไปจำหน่วยนำเงินมาใช้เป็นสวัสดิการ พร้อมกันนี้ ยังมีการเลี้ยงหมู ไก่ เป็ด ปลา กบ และวัว เพิ่มขึ้นอีกด้วย ส่วนที่บริเวณบ้านพักของข้าราชการทหารทุกนายได้ส่งเสริมให้มีการปลูกผักผลไม้ ไว้รับประทาน แจกให้เพื่อนบ้านและนำไปขาย นอกเหนือจากการจัดที่ดินว่างรายละประมาณ 1 ไร่ ไปทำโครงการการเกษตรพอเพียง ซึ่งจากการทำมาได้เกือบ 1 ปี ปรากฏว่าข้าราชการทหารบางรายมีรายได้เพิ่มจากเงินเดือนประจำ บางรายได้มากถึงเดือนละ 2,000 – 20,000 บาท
จากการทำให้องค์กรทหารของกองบิน46ได้ตระหนักถึงชุมชนสีเขียวในการ ช่วยลดภาวะโลกร้อน ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ สร้างแนวทางในการจัดการสิ่งแวดล้อม สร้างรายได้เสริม ลดรายจ่าย ลดมลพิษที่มีต่อชุมชน จึงนับเป็นโครงการดีที่หลายชุมชนหลายองค์กรควรนำไปเป็นแบบอย่าง
กรรณิการ์ แกล้วกสิกิจ/รายงาน