เปิดเวทีแจงแก้มลิงบึงระมาณทับที่ทำกินชาวบ้าน

วันที่ 19มีนาคม 2555 ที่ศาลากลางเปรียญวัดปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ประชาชนทั้ง 10 หมู่บ้านเดินทางไปที่วัดปลักแรดหลังจากได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเรียกประชุมเพื่อลงมติสร้างบึงระมาณ แก้มลิงเก็บน้ำขนาดใหญ่ของอำเภอบางระกำ จึงมีชาวบ้านประมาณ 500 คนเดินทางไปประชุมโดยมีนายกเทศบาลตำบลบึงระมาณและเทศบาลตำบลปลักแรดเป็นเจ้าภาพจัดงานเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในการขุดลอกบึงระมาณ ตามโครงการ”บางระกำโมเดล” ครั้งนี้
พร้อมเชิญเจ้าหน้าที่ชลประทานจังหวัดพิษณุโลกและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาร่วมชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้าน
ทั้งนื้สืบเนื่องจาก ชาวบางระกำประมาณ 30 คนเดินทางไปร้องผู้ว่าฯและเตรียมตัวยื่นหนังสือฟ้องศาลปกครองพิษณุโลกว่า ที่ดินของชาวบ้านซึ่งมีเอกสารสิทธิ์ สค.1 และ นส.3 ก เป็นที่ทำนา แต่กลับมีหนังสือสำคัญที่หลวง(นสล.) บึงระมาณจำนวน 3 พันไร่ ทับที่ดินของชาวบ้านซึ่งทำกินมานานนับสิบๆปี ขณะที่รัฐบาลให้บประมาณ เดินหน้าขุดลอกแก้มลิงบึงระมาณมาแล้ว
นายอัศวิน นิลเต่า สจ.เขตบางระกำ กล่าวบนเวทีว่า การสร้างแก้มลิงบึงระมาณนับว่า เป็นเรื่องดีของคนบางระกำ โครงการงบประมาณจากรัฐบาลจะช่วยให้คนในพื้นที่อยู่ดีมีสุข เดิมที ก่อนสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก็มีปัญหา กระทบวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ แต่ ณ วันนี้ เขื่อนป่าสัก กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ชาวบ้านมีรายได้จับปลาวันละเป็นพันบาท ส่วนบึงสีไฟก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดพิจิตร
ดังนั้นคนบางระกำน่าจะเห็นด้วยกับโครงการขุดลอกบึงระมาณ

ขณะที่คนบางระกำที่ได้รับผลกระทบจากการขุดลอกแก้มลิงบึงระมาณ กล่าวว่สา “ต้องถามคนพูดว่า กินข้าวหรือเปล่า ถ้าตนไม่มีที่ดินทำนา แล้วพวกเขาจะเอาข้าวที่ไหนกิน และถ้าตนไม่มีอาชีพทำนา แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปเที่ยว กรณีน้ำเหนือหลาก มาแล้วก็ไป ดีกว่า ถ้าเก็บน้ำไว้ทั้งหมด แล้วจะเอาที่ดินไหนทำนา”
“ฉันเป็นคนไทย เกิดมาบนท้องนา นอนร้องไห้ทุกคืน เมื่อทราบว่า หลวงจะเอาที่นาคืน ลูกกำลังเรียนหนังสือ ไม่รู้ว่า จะทำงาน หาเงินเลี้ยงลูกอย่างไร วันนี้ ยังไม่รู้เลยว่า หลวงจะเยียวยาอย่างไรกับพื้นที่รอบบึงระมาณ” ชาวบ้านบางระกำโวยต่อหน้าที่ประชุม

นางประทุม พัฒนาแหวง หมู่ 7 ต.ปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนเดินทางมารับฟังเพราะผู้ใหญ่บ้านประกาศว่า ให้มาร่วมประชุมกับผู้ราชการจังหวัดพิษณุโลกเกี่ยวกับแก้มลิงบึงระมาณ
แต่ตนไม่เซ็นต์ชื่อใดๆทั้งนั้น ในส่วนตัวตนไม่มั่นใจภาครัฐว่า จะเอาที่นาของตนคืนหรือไม่ เพราะตนทำนาอยู่ 15 ไร่ มีเอกสารสิทธิ์ ส.ค.1 แต่ชลประทานเตรียมขุดลอกบึงระมาณในพื้นที่นาของตน และตนทราบว่า
เทศบาลตำบลบึงระมาณ มีคดีความ ถูกชาวบ้านฟ้องที่ศาลจังหวัดพิษณุโลก กรณีขุดลอกที่ดินทับที่ชาวบ้าน นัดไต่สวน เช้าวันที่ 29 มีนาคม 55

 

นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า งบประมาณ 339 ล้านบาทเตรียมพัฒนาทั้ง 3 บึงในพื้นที่บางระกำ ปัญหาที่เกิดขึ้น กรณีหนังสือสำคัญที่หลวง 3 พันไร่ทับที่ชาวบ้าน จะต้องแก้ไขเร่งด่วน คือ 1.เว้นไว้ก่อน ในพื้นที่ๆมีปัญหา 2. เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ 3. ต้องพูดคุยเจรจากับผู้ที่ได้ผลกระทบทบ

นายนิยม กล่าวต่อว่า ในวันนี้  ผมไม่เห็นด้วยกับการประชุมวันนี้ คือ การเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในการขุดลอกบึงระมาณ ตามโครงการ”บางระกำโมเดล” ขอให้การประชุมครั้งนี้เป็นการพูดคุยจะดีว่า สำหรับผู้ที่รับผลกระทบที่เดือดร้อนจำนวน 33 คน ขอให้หน่วยราชการ และเกษตรอำเภอรวบรวมผู้ได้รับผลกระทบจากที่หลวงทับที่ทำกิน เพื่อได้รับการชดเชยต่อไป”

“ผมไม่เข้าใจ งบประมาณพันล้านบาทเตรียมลงพื้นที่บางระกำ แต่ถ้าผมมีที่นาอยู่ 20 ไร่ มีลูกกำลังเรียนอยู่ 2 คน ผมก็รับไม่ได้เช่นกัน ถ้าผมจะไม่มีที่ดินทำนา ทั้งๆ ที่นา ของผมก็ทำกินมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ เรื่องนี้ ผมจะต้องหาทางออก ช่วยชาวบ้านบางระกำ” ส.ส. นิยม กล่าว

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม กล่าวว่า ชาวบ้านบางระกำที่ทำกินในเขตบึงระมาณมาตั้งแต่พ.ศ.2462 แต่กำลังจะถูกรัฐเอาที่ดินไปทำเป็นบึง ในส่วนตัวคิดว่าขุดบึงระมาณแล้ว น้ำจะท่วมหรือไม่ ตนไม่ขอออกความเห็น
แต่ขอให้คนบางระกำยึดเอาผลประโยชน์ส่วนร่วมเป็นที่ตั้งกลุ่มนักการเมืองเดี๋ยวมาเดี๋ยวก็ไป

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากนี้ชาวบ้านบางระกำที่มีที่ทำนาอยู่ในเขตบึงระมาณแลังยังมีข้อร้องเรียนต่อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในที่ประชุมอีกว่าผลผลผลิตข้าวเปลือกที่ปลูกรอบบึงระมาณ ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการรับจำนำอีกด้วยเช่นเดียวกับที่ดินมีเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 และ ส.ค.1 ไม่สามารถออกโฉนดได้ เพราะทางอำเภออ้างว่าอยู่ในเขตบึงระมาณ

แสดงความคิดเห็น