แกนนำผู้ปลูกสับปะรดบุกกรุงฯพบนายกฯ

จากกรณีแกนนำเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด ในพื้นที่ 3 ตำบล  มี ต.หนองกะท้าว ต.ห้วยเฮี้ย และ ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก  นำกระบะบรรทุกสับปะรดมาปิดถนน 1 ช่องทางจราจรบริเวณสามแยกบ้านแยง ถนนพิษณุโลก- หล่มสัก บริเวณสามแยกบ้านแยง อ.นครไทย เนื่องจากราคาตกต่ำจนขาดทุน หลังจากเมื่อวันที่วัน12 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 55  ความคืบกรณีดังกล่าว นายชูชีพ แก้วคุ้ม นายกเทศบาลตำบลบ้านแยง อ.นครไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางแกนนำผู้ปลูกสับปะรด ได้เตรียมรวมตัวกันเข้าไปเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีที่กรุงเทพ โดยจะออกเดินทางในคืนวันนี้ ซึ่งจะไปเฉพาะแกนนำเท่านั้น  การเดินทางไปครั้งนี้เป็นการรวมตัวของเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดทั้งประเทศ หรือจังหวัดที่มีเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด นอกจากจะไปพบนายกรัฐมนตรีแล้ว จะไปพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายชูชีพ กล่าวว่า เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดยังขาดทุน ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 2 บาท ถึง 2.20 บาท ทั้งที่ต้นทุนประมาณ 4 บาท สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดประท้วงที่สามแยกบ้านแยงเป็นเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่ครั้งนี้จะมีการรวมทั้งประเทศ เพื่อเรียกร้องให้รัฐลงมาดูแลราคาสับปะรด  โดยจะให้ทางแกนนำเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด จ.ระยอง จะเป็นผู้เตรียมข้อมูลเอกสาร การดำเนินการทุกอย่าง และรวมตัวกันที่กรุงเทพ ก่อนจะเข้าพบนายกรัฐมนตรี

นายกมล ยงท้วม ประธานกลุ่มวิสาหกิจ ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย เปิดเผยว่า หลังจากมีการยื่นข้อเสนอไปให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้ว แต่หลังจากที่ตนได้ประสานสอบถามไป ปรากกว่าถูกปฏิเสธไม่ยอมรับราคาที่เสนอไปตอนนั้นอยู่ที่ 3 บาท แต่ราคาที่เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดขายได้แค่ 2.10 บาท ถึง 2.20 บาท เท่านั้น  ทั้งที่อะไรก็แพงไปหมด หน่อละ 3 บาท ค่าแรงก็เพิ่มขึ้น เกษตรกรแต่ละรายปลูกสับปะรดตกไร่ละ 8,000 บาท ถ้าขายได้ไร่ละไม่ต่ำกว่า 30,000-40,000 บาท ก็พออยู่ได้ เพราะปีที่ผ่านมาราคาอยู่ประมาณ 3 บาท ถึง 3.20 บาท  ส่วนเหตุนั้นมาจากโรงงานไม่มีโกงดังเก็บ ระบายไม่ทัน แต่ก่อนโรงงานผลิตได้วันละ 800 ตัน แต่วันนี้โรงงานผลิตเพียงวันละ 200 ตัน ไม่สามารถรับซื้อเพิ่มได้ ทำให้ผลผลิตสับปะรดล้นตลาด จนราคาตกต่ำ  โดยเฉพาะเกษตรกรที่กู้เงินมาลงทุนร้อยละ 5 บาท  ต้องรับภาระหนักเวลานี้

แสดงความคิดเห็น