เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มี.ค. 2555 พระอธิการปราโมทย์ กิตติวุฒโธ เจ้าอาวาสวัดสระโคล่โสภาราม ม.10 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ว่าที่ ร.ต.ประเชิญ เพชรจันทร์ สจ.เขตเมืองพิษณุโลก พร้อมด้วยคณะกรรมการวัด ได้ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการจัดงานสมโภชพระพุทธศิลา หรือหลวงพ่อหิน บริเวณหน้าวิหารหลวงพ่อหิน ภายในวัดสระโคล่ โดยมีชาวบ้านจำนวนมากมาร่วมการแถลงข่าวครั้งนี้
พระอธิการปราโมทย์ กิตติวุฒโธ เจ้าอาวาส กล่าวว่า หลวงพ่อหินมีความเก่าแก่ ประดิษฐานอยู่วัดสระเก้าห้องมาก่อน และนำมาประดิษฐานที่วัดสระโคล่ร่วม 50 ปีแล้ว เตรียมการจัดงานสมโภชพระพุทธศิลา หรือหลวงพ่อหิน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยุคทวาราวดี ที่มีความเก่าแก่และมีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปคู่วัดที่มีอายุกว่า 1,000 ปี เดิมเป็นพระพุทธศิลาเป็นพุทธรูปที่แกะจากหินทั้งองค์ ต่อมามีการนำปูนมาโบกปิดทับเอาไว้ขนาดหน้าตักกว้าง 3 ศอก กระทั่งปลายปี 2549 หม่อมเจ้าชาตรี เฉลิม ยุคล เคยมาที่วัด พร้อมได้ขอดูพระพุทธศิลา สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพระยุคทวาราวดี พร้อมกับเอ่ยว่าน่าจะทำอะไรให้ดีกว่านี้ ทางวัดจึงได้คิดจัดงานสมโภชหลวงพ่อหินเฉลิมฉลองให้ยิ่งใหญ่ โดยมีวัตถุประสงค์คือ 1.ต้องการประกาศให้พุทธศาสนิกชนรู้ว่าที่วัดมีพระพุทธรูปเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ 2.ต้องการสร้างความสามัคคีในชุมชน 3.ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการะพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งงานสมโภชจะมีด้วยกัน 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 9-10-11 เมษายน 2555 นี้
ว่าที่ ร.ต.ประเชิญ เพชรจันทร์ สจ.เขตเมืองพิษณุโลก กล่าวว่า ในสมัย 50 ปีที่แล้ว วัดสระเก้าห้อง ตั้งอนู่ที่ม.9 เป็นวัดร้าง ไม่มีพระสงฆ์ มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ที่นั่น เป็นพระพุทธรูปหินแกะสลัก แต่เป็นองค์พระไม่มีเศียรอาจจะหักจากการขนย้าย และมีการนำมาทิ้งไว้ ต่อมามีคนหาปลาไปเจอเศียรพระกลางทุ่งนา เชื่อว่าเป็นเศียรและองค์ที่เป็นองค์เดียวกัน จึงได้นำมาไว้ที่ใต้ต้นโพธิ์ ต่อมาได้นำเศียรมาต่อกับองค์หลวงพ่อหิน พร้อมโบกปูนเอาไว้ ส่วนที่บอกว่าเป็นพระยุคทวาราวดี เนื่องจากหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคลได้มาดูหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ช่วงที่กำลังสร้างภาพยนตร์สมเด็จพระนเรศวร สันนิษฐานเอาไว้ โดยสันนิษฐานว่า บริเวณวัดสระเก้าห้องเป็นบริเวณตั้งทัพหน้าด่าน เพราะมีสระจำนวนถึง 9 สระ เพื่อใช้ดูแลสัตว์เลี้ยงช้างศึกวัวควายสมัยนั้น เชื่อว่าพระพุทธรูปองค์นี้น่าจะมีการนำมาประดิษฐานในช่วงนั้น ก่อนนำมารักษาไว้ที่วัดวัดสระโคล่เมื่อปี 2503 และในปีนี้ทางวัดจึงได้เตรียมงานสมโภชอย่างยิ่งใหญ่