เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา(4 มี.ค.55) ผมได้เดินทางกลับไปบ้านนา บ้านเรา ต.ดงเสือเหลือง อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผม โดยในครั้งบ้านเรา กำลังจะเก็บเกี่ยวข้าวที่ได้ลงมือทำมาตั้งแต่ 3 เดือนที่ผ่านมา และได้ถึงเวลาเก็บเกี่ยวพอดี ครั้นก่อนนั้น เมื่อเพื่อนบ้านจะเก็บเกี่ยวข้าวเมื่อไร ก็จะลงแขกกัน ไม่ว่าจะสมัยมีเคียวเกี่ยวข้าว มาจนถึงมีรถเกี่ยวขนาดใหญ่ สามารถเกี่ยวข้าวไม่ถึงชั่วโมง ก็หมดเป็นหลายสิบไร่
อย่างที่บอกแหละครับว่า หากเมื่อใครจะเก็บเกี่ยวข้าว ก็จะมีการลงแขกเกี่ยวข้าวกัน เจ้าภาพก็จะมีการเลี้ยงอาหาร เหล้า ยา ปลาปิ้ง กันเต็มที่ !! แต่เดี๋ยวนี้ประเพณีลงแขกำลังเริ่มเลือนหายไป และได้มีการว่าจ้างแรงงาน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน มาช่วยเกี่ยวกัน แต่บ้านนา บ้านเรา ก็ยังมีการเอาแรงลงแขกเหมือนแต่ก่อนครับ กับข้าวส่วนใหญ่ที่บ้านของเราเลี้ยงอาหารกลางวัน เมนูเด็ดในครั้งนี้ แม่ผม ได้สับปลาร้า เพื่อทำน้ำพริกทรงเครื่องมาให้แขกที่มาช่วยเกี่ยวข้าวให้กับเราได้กินกัน ซึ่งปลาร้า แทบทุกบ้านของหมู่บ้านเรา นั้นเชื่อว่าได้มีการมักเก็บไว้กินกันแทบทุกบ้านครับ เพราะว่าน้ำท่วมในปีที่ผ่านมาเรียกได้มาสิ่งที่มากับน้ำนั่น ก็คือ “ปลา” และแต่ละบ้านก็จะได้ปลามากินกันอย่างมาก ที่เหลือก็จะหมักไว้ทำปลาร้า ไว้กินอีก ทำให้บ้านเราจะไม่ขาดปลาร้า ไว้สำหรับทำกับข้าว และที่ผมชอบคือ นำมาทำส้มตำ ครับ
ภาพที่ยังได้เห็นในวันนี้มีเพื่อนบ้านอย่างพี่พิน พี่ดวน และลุงพงษ์ มาร่วมสับปลาร้า ในเขียงเดียวกัน เพื่อให้ปลาร้าละเอียด สับปลาร้าไป ก็คุยเม้า กันไปต่างๆนานา ตามประสาคนชนบท ที่ชอบนำเรื่องโน้น เรื่องนี้ มาพูด สิ่งที่ขาดไม่ได้คือเรื่องหวยนั่นแหละครับ เพราะแต่ละงวดทุกคนจะเฉือดไปเฉือดมา ทำให้ลุ้นกันแทบทุกงวด และทำให้กลายเป็นเรื่องที่เราสนุกปากกันทีเดียว
และในวันเกี่ยวข้าวในปีนี้เรา สามารถเก็บเกี่ยวข้าวได้ถึง 22 เกวียน หรือ ตัน ทีเดียว ก็ไม่น้อย หากเปรียบเทียบกับการทำนา 50 ไร่ อีกทั้งพื้นที่ห่างไกลชลประทานอีก ทำให้เราหวั่นกันว่าจะไม่ถึง 20 ตัน และราคาที่ขายนั้นก็อยู่ในช่วงของการรับจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ราคา อยู่ที่ตันละ 10,000+ ขึ้นไปครับ
/////