วันนี้( 6 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันแรกที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่เพื่อโปรยฝนหลวงในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง เพื่อบรรเทาภัยแล้ง โดยในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องบินแบบ การ์ซ่า ของกระทรวงเกษตรฯ บรรทุกสารเคมีลำละ 1 ตัน ทำการโปรยฝนหลวง ในพื้นที่ อ.นครไทย อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก และ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวพื้นที่ทางการเกษตรเริ่มขาดน้ำ แหล่งน้ำทางธรรมชาติ ได้แห้งขอดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทางหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก ต้องเร่งปฏิบัติหน้าที่ก่อน อีกทั้งในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.พิษณุโลก ยังมีการปลูกข้าวโพดอยู่ อาจส่งผลให้ข้าวโพดเสียหายได้
นายกิตติ ธูปศรี หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่าในวันนี้เป็นวันแรกที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจะได้ปฏิบัติหน้าที่ทำฝนหลวงในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง คือ จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร จ.กำแพงเพชร จ.เพชรบูรณ์ จ.อุตรดิตถ์ จ.ตาก และ จ.สุโขทัย เพื่อเป็นการช่วยเหลือภัยแล้งในพื้นที่ดังกล่าว โดยทางหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก จะปฏิบัติหน้าที่ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน หากสถานการณ์ภัยแล้งดีขึ้นก็จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อน ซึ่งในแต่ละวันนั้นจะบิน จำนวน 2 รอบ รอบละ 2 ตัน ทำการโปรยฝนหลวงในพื้นที่ดังกล่าว
นายกิตติ ธูปศรี หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก กล่าวอีกว่า ในวันนี้ความชื้นสัมผัส มีน้อยเพียง 40% เท่านั้น ซึ่งอาจทำให้เกิดเมฆฝนได้น้อย และอาจไม่เกิดเลย แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องโปรย เพื่อปรับสภาพอากาศให้ดีขึ้น โดยปกติแล้วการทำฝนหลวงได้ดีจะต้องมีความชื้นสัมผัสอยู่ที่ 60 % ก็จะทำให้เกิดเมฆและฝนตกได้ง่าย
////
ชมภาพวีดีโอ
[media id=244 width=480 height=360]