เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 มี.ค. 55 ที่บริเวณหน้าศาลากลางพิษณุโลก ได้มีกลุ่มเกษตรกรชาวนาจำนวน กว่า 40 คน ต.บ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก เดินทางมาขอพบนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการ จ.พิษณุโลก โดยการนำของ พ.ท.วิโรจน์ มาเกตุ ประธานเกษตรกร แต่ปรากฏว่าผู้ว่าติดประชุม มีผู้ช่วยการค้าภายในจังหวัดพิษณุโลกมารับหนังสือแทน แต่ทางกลุ่มชาวบ้านยังไม่พอใจ ต้องการจะขอพบผู้ว่าราชการเพียงคนเดียวเท่านั้น
ส่วนรายละเอียดหนังสือระบุว่า เกษตรกรที่ปลูกข้าวปี 2554/2555 รอบสอง (ข้าวนาปรัง) มีเกษตรกรหลายรายปลูกข้าวปทุมธานี 1 แล้วนำข้าวไปเข้าโครงการรับจำนำของรัฐบาล แต่ปรากกว่าโรงสีข้าวไม่รับจำนำข้าวปทุมธานี 1 บอกให้เกษตรกรไปเปลี่ยนแปลงเอกสารพันธุ์ข้าวปทุมธานี 1 เป็นข้าวเจ้าจึงจะรับจำนำ แต่ถ้าขายสดจะได้ราคาตันละ 9,000 บาท ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน และไม่ได้รับความเป็นธรรม
พ.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า ชาวนานำข้าวปทุมธานี 1 ไปเข้าโครงการรับจำนำ ปรากฏว่าโรงสีไม่รับจำนำ ได้ติดกับเกษตรอำเภอและเกษตรจังหวัดไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เพราะการจำนำข้าวปทุมตันละ 16,000 บาท ถ้าข้าวเจ้าตันละ 15,000 บาท ถ้าต้องการขายจะได้ราคา 7,000-8,000 บาทเท่านั้น จึงต้องรวมตัวกันมาร้องให้ผู้ว่าราชการช่วยเหลือ
ต่อมานายปรีชา ผู้ว่าราชการ ได้ลงมาพบกลุ่มเกษตรกรพร้อมกับได้โทรศัพท์พูดคุยกับโรงสีข้าวและเกษตรอำเภอ สอบถามปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกับได้สั่งการให้ดำเนินการแก้ไขทันที เกษตรกรที่มีปัญหาเรื่องข้าวปทุมธานี ที่เกษตรกรได้บันทึกในใบรับรองผลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2554/55 ทพศ. 1/3 รอบสอง มีปัญหาเรื่องจำนำข้าวอยู่บ้าง มีผู้นำข้าวมาจำนำติดขัดกับโรงสี ตอนนี้ได้แก้ไขให้แล้ว ให้ทางเกษตรแก้ไขเปลี่ยนจากข้าวปทุมธานี เป็นข้าวเจ้าก็จะจำนำได้ ถ้าระบุเป็นข้าวปทุมธานีไม่มีโกงดังเก็บ การเก็บจะแยกแยะไม่เหมือน แก้ไขรับรองตรงกันก็จะจำนำได้ ซึ่งได้ประสานโรงสีเอาไว้แล้ว ขอให้เป็นบรรทัดฐานทั้งจังหวัด
/////