เมื่อ 09.00 น. วันที่ 2 มี.ค. 55 เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์วิทยุ 191 จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากนายประเชิญ เพชรจันทร์ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ว่าได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาข่มขืนผู้อื่นเอาไว้ได้ ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดีด้วย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ต.หัวรอขับรถยนต์มารับตัวไปส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในที่เกิดเหตุพบนายธีรวุฒิ รอดสุด อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 ม.3 ต.บ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก ถูกควบคุมตัวเอาไว้ในกระบะหลังรถยนต์ สภาพนุ่งกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว โดยมีชาวบ้านทั้งชายและหญิงจำนวนมากยืนคุมเชิงเอาไว้ ส่วนผู้เสียหายทราบชื่อนางตล่อม คล้ายกล่ำ อายุ 90 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.9 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก อยู่ในอาการที่ตกใจ มีอาการเจ็บตามร่างกาย และใบหน้า เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกายอีกด้วย
นายประเชิญ เพชรจันทร์ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งโทรศัพท์จากชาวบ้านให้นำลูกบ้านติดตามจับกุมคนร้ายที่เข้าไปข่มขื่นนางตล่อมภายในบ้าน และกำลังขี่รถจักรยานหลบหนีไป จึงได้เกณฑ์ชาวบ้านจำนวนกว่าสิบคน ออกติดตามหากระทั่งพบชายหนุ่มต้องสงสัยสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียววิ่งลัดเลาะกลางนา จึงได้วิ่งไล่จับกุมตัวได้ที่ ม.10 บ้านวังยาว ต.บ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก ควบคุมตัวมาที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าเป็นชายที่ลงมือข่มขืนนางตะล่อม จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดี
จากการสอบถาม ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ มีชาวเห็นหนุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานออกมาจากบ้านของยายตะล่อม เกิดความสงสัยจึงออกไปดู โดยมีนางตะล่อมออกมาร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้ชายหนุ่มรีบปั่นจักรยานหลบหนี ชาวบ้านจึงพาไล่จับตัว ทำให้ชายหนุ่มทิ้งรถจักรยาน พร้อมกับถอดเสื้อผ้า เหลือแต่กางเกงในตัวเดียว ก่อนจะถูกตามจับกุมตัวเอาไว้ได้
นางตล่อม ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้นี้ตนตื่นสาย เนื่องจากร่างกายไม่ดีเหมือนกับไม่สบาย เพราะมีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้ง หอบหืด ความดัน โรคกระเพาะ และโรคไขมัน จึงนอนหลับพักผ่อนอยู่ในมุ้งเพียงลำพังคนเดียว ส่วนลูกหลานต่างออกไปไปทำงานกันหมด ปกติทุกวันจะมีหลานอีกคนอยู่เป็นเพื่อนทุกวัน แต่วันเกิดเหตุหลานไปทำธุระที่กรุงเทพ จึงต้องอยู่คนเดียว ปกติประตูบ้านจะไม่ใส่กลอนอยู่แล้ว เผื่อว่าเกิดตนไม่สบายก็จะมีคนเข้าไปช่วยได้ทัน ระหว่างที่กำลังนอนอยู่ในมุ้ง ปรากฏว่ามีคนร้ายมุดเข้ามาตนในมุ้ง และตีที่ท้ายทอยจนมึนชา จากนั้นได้จับนอนหงายทุบตีที่ใบหน้าหลายครั้ง ก่อนจะใช้มือปิดปากจนหายใจไม่ออกเกือบจะตาย จนหมดแรงสู้และถูกข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ ก่อนที่คนร้ายจะรีบออกจากบ้านไปทันที ตนจะพยายามประคองตัวเองเดินออกมาจากบ้าน เพื่อขอความช่วยเหลือ
เบื้องต้นสอบสวนทราบว่า นายธีรวุฒิ เคยต้องคดียาเสพติดจำคุกมาแล้ว 3 ปี เพิ่งจะพ้นโทษเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และมาอาศัยอยู่กับพ่อ ทำงานเกี่ยวกับการก่อสร้าง ก่อนเกิดเหตุได้ขี่จักรยานผ่านมาบ้านของยายตะล่อมเห็นประตูไม่ได้ปิดล็อก จึงเข้าไปภายในบ้านไม่พบใคร หลังเปิดมุ้งเห็นยายนอนอยู่คนเดียวจึงลงมือทำร้ายร่างกาย ปิดปากไม่ให้ร้องก่อนจะลงมือข่มขืนจนเสร็จ จากนั้นได้ขี่จักรยานหลบหนี พอดีมีชาวบ้านมาเจอ และไล่ติดตามจับกุม จึงทิ้งรถจักรยานถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว แต่ก็ถูกชาวบ้านไล่ตามจับตัวได้ในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ชาวบ้านควบคุมตัวนายธรวุฒิอยู่บนกระบะรถยนต์ ปรากฏว่ามีชายหนุ่มวัยกลางคนตรงรี่เข้ามาหา พร้อมกับสาวหมัดชกต่อยไปหลายหลายครั้ง จนผู้ต้องก้มหน้าใช้แขนทั้งสองข้างเอาไว้บังใบหน้า ก่อนจะชาวบ้านมาดึงตัวออกไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบนำตัวไปส่งให้กับพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ส่วนแม่เฒ่าตะล่อม ทางนายประเชิญ เพชรจันทร์ สจ. ได้พาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพุทธชินราช และไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำต่อไป