นายกิตติพจน์ สมอารยพงศ์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 11 (พิษณุโลก) กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าในขณะนี้ในพื้นที่การดูแลของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 11 (พิษณุโลก) ทั้งสิ้น 1,312,500 ไร่ ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือจังหวัดพิษณุโลก อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ ซึ่งจะเป็นพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติต่างๆ พบว่าปีนี้มีแนวโน้มการเกิดไฟป่ารุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ถึงขณะนี้พบว่า มีไฟป่าเกิดขึ้นแล้ว 70 ครั้ง สร้างความเสียหายแก่พื้นที่ป่า จำนวน 637 ไร่ แบ่งออกเป็น จ.อุตรดิตถ์เกิดขึ้นแล้ว 30 ครั้งเสียหาย 235 ไร่ จ.เพชรบูรณ์ 17 ครั้ง เสียหาย 213 ไร่ และจ.พิษณุโลก เกิดขึ้น 23 ครั้ง เสียหาย 189 ไร่ โดยเมื่อเทียบกับปี 2554 พบว่าในช่วงเวลา 1 ตุลาคม 2553 – 30 กันยายน 2554 มีไฟป่าเกิดขึ้น 97 ครั้งเสียหาย 850.20 ไร่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าสาเหตุส่วนใหญ่ของการเกิดไฟป่ามาจากน้ำมือของคน ที่เข้าไปล่าสัตว์ เข้าไปหาของป่า และการทำไร่โดยการจุดไฟเผา ทำให้ไฟลุกลามจนเกิดเป็นไฟป่า ซึ่งเรื่องนี้ทาง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 11 (พิษณุโลก) ก็ได้สั่งการให้หน่วยเสือไฟ พร้อมปฏิบัติหน้าที่ 24 ชม.หากเกิดไฟป่าเกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมทั้งการประชาสัมพันธ์ การลงพื้นที่สร้างความเข้าใจ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายเพื่อป้องกันไฟป่า แต่ปัญหาที่สำคัญคือเรื่องการควบคุมคนเข้าไปในพื้นที่ป่า เป็นเรื่องที่ทำได้ยากยิ่งช่วงหน้าแล้งการเกิดไฟป่าเป็นไปได้ง่าย
ดังนั้นทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 11 (พิษณุโลก) จึงอยากขอประชาสัมพันธ์ความร่วมมือจากประชาชนในการดูแลและช่วยกันป้องกันไฟป่าไม่ให้เกิดขึ้น เพราะเมื่อเกิดไฟป่าการเข้าไปดับหรือจัดการจะเป็นเรื่องยาก เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ก็มีจำนวนน้อย อย่างหน่วยเสือไฟของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 11 (พิษณุโลก) ก็มีอยู่เพียง 15 คน การเข้าไปดูแลแก้ไขจึงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นการร่วมมือจากประชาชนจะเป็นสิ่งสำคัญ และนอกจากนี้ผู้ที่จุดไฟเผาป่าหรือทำให้ไฟลุกลามเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตป่าสงวน จะมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ 2-15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 150,000 บาท และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 220 ผู้ที่กระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆแม้จะเป็นของตนเองจนน่าที่จะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น ต้องระวางจำคุกไม่เกิด 7 ปี และ ปรับไม่เกิน 14,000 บาท
////