ตำรวจรวบหนุ่มไม่ถึงเดือนวิ่งราวทรัพย์ 6 ครั้ง

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 17 ก.พ. 55 พล.ต.ต.ธรรมนูญ  เพชรบุรีกุล ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย  เกิดช้าง ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาในคดีวิ่งราวทรัพย์ได้ผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายกฤษฎา  หรืออ๋อง  ยวงเทียน อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/2 หมู่ 5 ต.สำโรง อ.บางมูลนาค จ.พิจิตร  พร้อมของกลางรถจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีแดงดำ ทะเบียน ขตก – 874 พิษณุโลก  หมวกกันน็อกสีดำ จำนวน 1 ใบ  เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ 1 ตัว โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นกาแล็คซี มินิ จำนวน 1 เครื่อง กระเป๋าสะพายของผู้หญิงจำนวน 4 ใบ โดยมีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวจำนวน 2 ราย เข้าชี้ตัวยืนยัน

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งจาก น.ส.ธนัญชนก  สร้อยดี อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158/1 หมู่ 6 ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ได้แจ้งความร้องทุกข์ว่าได้ถูกคนร้ายเป็นชาย ขับขี่รถจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีแดงดำ ทะเบียน-ขตก 874 พิษณุโลก วิ่งวาวเอากระเป๋าถือของผู้เสียหายหลบหนีไป   เหตุเกิดที่หน้าร้านอาหารจ่าเติม ถนนสิงหวัฒน์ ต.พลายชุมพล อ.เมืองพิษณุโลก  ต่อมาชุดสืบสวนได้ติดตามคนร้ายและทราบว่าคนร้ายที่ใช้รถจักรยายนต์คันที่ก่อเหตุพักอาศัยอยู่ที่ หอพักไม่มีชื่อ ถนนเทพารักษ์ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก พบนายกฤษฎา อยู่บริเวณหน้าหอพักและรับว่าเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว จึงได้เชิญมาสอบสวนให้การรับสารภาพ ว่าได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ น.ส.ธนัญชนก  สร้อยดี ก่อนจะหลบหนีไป

 

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  พบว่านายกฤษฎา  ยวงเทียน  ได้ก่อเหตุครั้งแรกหน้าโรงแรมแกรนด์ริเวอร์ไซด์ ต.ในเมือง  ครั้งที่ 2 หน้าสถานีอนามัยประชาอุทิศ ต.ในเมือง  ครั้งที่ 3 หน้าห้างเซ็นทรัล ถนนสีหราชเดโชชัย ต.พลายชุมพล  ครั้งที่ 4 หน้าซอยพระลือ หลังโรงงานเจียรนัยเพชร ต.ในเมือง  ครั้งที่ 5 หน้าร้านบ้านคลองผ้าม่าน  ถนนสีหราชเดโชชัย ต.ในเมือง และครั้งล่าสุดที่บริเวณหน้าร้านอาหารจ่าเติม ม.3 ต.บ้านคลอง  โดยสารภาพเคยทำงานเป็นเด็กปั๊มน้ำมัน ได้ค่าแรงวัน 150 บาท แต่ไม่พอค่าส่งงวดรถจักรยานยนต์  จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวในช่วงเวลาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ติดต่อกันถึง 6 ครั้ง  เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการหลบหนีหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือเพื่อหาทรัพย์นั้นไป เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

แสดงความคิดเห็น