วันที่ 9 ก.พ. 55 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามีแม่เลี้ยงลูกชายเอาไว้ในบ้าน โดยการผูกมัดเอาไว้ตลอดทั้งวัน ไม่ยอมให้ออกไปไหน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่หมู่บ้านหัวนา บ้านเลขที่ 32 หมู่ 4 ถนนสายนครไทย-ด่านซ้าย ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก พบว่าบ้านหลังดังกล่าว ด้านหน้าเปิดขายเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว จึงได้เข้าไปสอบถาม ทราบชื่อนางกิ่งดาว สุขมามอญ อายุ 44 ปี แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว โดยภายในบ้าน มีลูกชายชื่อด.ช.ธัชพล สุขมามอญ หรือ น้องดรีม อายุ 2 ปี 8 เดือน โดยที่ข้อขาถูกมัดด้วยผ้าที่พันเป็นเชือกเอาไว้ นั่งเล่นอยู่กับตายายสองคน ในห้องโถงชั้นล่างของตัวบ้าน เพื่อไม่ให้ลูกชายออกไปไหน
นางกิ่งดาว กล่าวว่า ส่วนสาเหตุที่ตนต้องผูกมัดขาลูกชายเอาไว้นั้น เพราะไม่มีเวลาดูแลต้องขายก๋วยเตี๋ยว กลัวลูกวิ่งซนเอาไปนอกบ้าน เพราะก่อนหน้าลูกชายปล่อยลูกชายเอาไว้ ได้วิ่งออกไปถนนหน้าบ้าน ทำให้รถยนต์ที่วิ่งผ่านไปมาเกือบพุ่งชนมาแล้ว 3 ครั้งแล้ว จึงจำใจต้องมัดลูกเอาไว้เพราะความรักลูก แต่จะมัดช่วงขายก๋วยเตี๋ยวเท่านั้น ส่วนญาติมีเพียงตากับยายช่วยดูแลหลานอีก แต่ไม่สามารถเดินตามดูแลได้ตลอดเวลา เพราะอายุมากแล้ว ส่วนพี่ชายเป็นโรคประสาทช่วยดูแลไม่ได้ ตนมีความจำเป็นต้องมัดลูกเอาไว้ตั้งแต่ตีห้า เพราะต้องเตรียมข้าวของต่างๆ กระทั่งเช้าก็จะเปิดขายก๋วยเตี๋ยว ไปจนถึงบ่าย 3 โมง หากวันไหนไม่เหนื่อยก็จะพาลูกออกไปเที่ยวเล่นเป็นบางครั้ง
นางกิ่งดาว กล่าวอีกว่า ทุกวันจำใจต้องผูกเชือกมัดที่ขาลูกไว้ เนื่องจากลูกซุกซน และตนเองไม่มีเวลาดูแล เพราะต้องค้าขาย หาเงินเลี้ยงดูคนในครอบครัวเพียงคนเดียว แต่ละวันมีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งเรื่องนมลูก ยารักษาโรค และอาหารการกินให้กับพ่อแม่ ที่แก่ชราวันกว่า 80 ปี และพี่ชายที่ป่วยเป็นโรคประสาท ส่วนตากับยายแก่มากแล้ว จนเดินตามดูแลหลานไม่ได้ทัน ในช่วงที่ตนเองทำงานของทุกวันจึงต้องมัดลูกไว้ ให้นอนอยู่เฉพาะในบ้าน โดยมีตายาย ส่วนพี่ชายช่วยกันดูแล เล่นด้วยเป็นบางครั้งเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ไม่ปล่อยเชือกเลยตลอดทั้งวัน เนื่องจากลูกซุกซนมากกว่าเด็กธรรมดาทั่วไป การมัดลูกไว้ก็เป็นห่วงว่าลูกจะเครียด แต่เท่าที่เห็นเวลามานั่งใกล้ๆลูกก็ยังร่าเริงดี บางวันอาจมีนั่งเล่นคนเดียวบ้างก็มองดูเป็นเรื่องปกติ
“ทุกวันเวลาใครเห็นลูกนั่งอยู่ก็จะมาสอบถาม ว่าทำไมต้องมัดลูกแบบนั้น ก็ตอบคำถามลูกค้าไม่ปิดบังอะไร ถามว่าใจแม่ไม่อยากมัดลูกไว้หรอก แต่ถ้าไม่ทำลูกเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตก็ไม่มีใครมารับผิดชอบช่วยเหลือได้ ช่วงทำงานยุ่ง ๆ ลูกวิ่งออกไปเล่นไกลหูไกลตาถูกคนจับไป หรือเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ใครจะมาช่วยไม่ทัน และที่ผ่านมาลูกเกือบถูกรถชนมาแล้ว 3 ครั้ง ทำให้ ทุกวันถ้าลูกตื่นก็จะมัดขาลูกไว้เลย บางครั้งตั้งแต่เวลา ตี 5 จะปล่อยก็ช่วง 5 โมงเย็น ถ้าไม่เหนื่อยมากนัก ก็จะปล่อยลูก วิ่งเล่นโดยดูอยู่ใกล้ๆ และพาออกไปเที่ยว แต่ถ้าเหนื่อยก็มัดต่อไปอีก ส่วนช่วงกลางคืนก็ปล่อยลูกนอนตามปกติทั่วไป ไม่ได้มีการมัดขาแต่อย่างใด ก็ทำแบบนี้มาได้ปีหนึ่งได้ ตั้งแต่ลูกเริ่มเดินและวิ่งได้ “นางกิ่งดาวกล่าว
จากการสอบถาม ทราบว่าในแต่ละวัน ต้องขายก๋วยเตี๋ยวหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว เพราะมีในบ้านมีอยู่ด้วยกัน 5 คน รายได้เฉลี่ยวันละ 300-500 บาท พออยู่ได้ไม่ได้ลำบาก ในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมจะพาฝากเลี้ยงที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กอ่อนของหมู่บ้าน ช่วงนั้นคงไม่ต้องมัดเชือกขังไว้แบบนี้อีก ส่วนการนำลูกไปเข้าโรงเรียนทั่วไปมองดูอยู่เช่นกัน