วันนี้(4 ก.พ.) นายชะอุ่ม ช้างพินิจ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ ช้างพินิจ บุตรชาย อยู่บ้านเลขที่ 80/1 หมู่ 19 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เดินทางมาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว หลังจากถูกคนร้ายย่องเบาขึ้นบ้านของตนเองแล้วขโมยสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท กำไรทองคำ หนัก 1 บาท เงินสด 25,000 บาท เอกสาร โฉนดที่ดิน อีก 2 ใบไป โดยเหตุเกิดเหตุเมื่อวันที่ 29 ก.ย.2553 ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้ติดตามหาตัวคนร้าย แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จากนั้นเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2554 ที่ผ่านมา ได้มีนายชาญ เทพหยด ชาวบ้าน อ.วังทอง ซึ่งเป็นนายทุนแหล่งเงินกู้ ก็ได้มาถามหานายรุ่งโรจน์ อินเกิด ญาติของตน ว่าอยู่บ้านหรือไม่ เนื่องจากนายรุ่งโรจน์ ได้นำโฉนดที่ดินไปจำนองไว้จำนวน 180,000 บาท แล้วไม่ยอมส่งต้นและดอก มานาน และจะมายึดที่ดิน
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ขณะนั้น ตนเองและพ่อไม่อยู่บ้าน ต้องไปทำงานที่ระยอง เหลือเพียงแต่นางประจิม มารดาอยู่เพียงลำพังผู้เดียว และไม่รู้เรื่องแต่อย่างใด จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านมาบอกตน จึงได้รับกลับบ้านมาตรวจสอบและพยายามติดต่อนายชาญ เทพหยด ดู และพบว่าโฉนดดังกล่าว เป็นของบิดาตน และได้หายไปกว่า 1 ปีแล้ว จึงได้ไปแจ้งกับเจ้าพนักงานที่ดินให้ตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมกับขอตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการจำนองที่ดินกับนายชาญ ก็พบว่าได้มีการปลอมแปลงเอกสารสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านไปเป็นหลักฐานในการจำนอง และพบว่านายรุ่งโรจน์ อินเกิด ญาติของตนนั้น เป็นผู้นำไปจำนองอีกด้วย
ต่อมานายนิพนธ์ และนายชะอุ่ม บิดา ได้นัดหมายกับนายชาญ เทพหยด เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก อีกครั้งเพื่อดำเนินคดีกับนายรุ่งโรจน์ และพวกที่มีการปลอมแปลงเอกสารไปจำนองที่ดิน จนเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาไว้ 5 ข้อหา คือ ลักทรัพย์ ปลอมเอกสารราชการ เอาไปเสียซึ่งเอกสาร ฉ้อโกง และ ใช้เอกสารราชการปลอม พร้อมกับจะได้ติดตามตัวนายรุ่งโรจน์ มาสอบสวนอีกครั้ง
ด้านนายชาญ เทพหยด กล่าวว่า ตนเองรู้สึกเสียดาย แต่ก็ไม่ทราบจะไปแจ้งความทางแพ่ง ไปทำอะไร เนื่องจากนายรุ่งโรจน์ ไม่น่าจะมีหลักทรัพย์อะไร ตนเองก็ยินดีที่คืนโฉนดที่ดินให้เจ้าของคนเดิม ซึ่งตนเองก็ไม่นึกว่าจะมีแก็งปลอมเอกสารเพื่อจำนองโฉนดที่ดินดังกล่าวได้
/////