เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 28 มกราคม เปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เปิดเผยภายหลังเดินทางไปร่วมงานฌาปณกิจศพที่วัดสระแก้วประทุมทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ถึงเรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย ซึ่งนายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้พิจารณายืนตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ให้เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงหรือโดยอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่บริษัท อมรินทร์แลนด์แอนด์เฮาส์จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการโรงแรมอมรินทร์ลากูน ได้กระทำให้แก่เทศบาลนครพิษณุโลก ว่า ในเรื่องนี้ตนมองว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเซ็นต์ตามที่ศาลสั่ง ให้ต้องมีคำสั่งออกมาภายใน 15 วัน แต่จากหนังสือคำสั่งที่ผู้ว่าฯเซ็นต์ไม่ได้ระบุคำวินิจฉัยออกมาชัดเจนว่าต้องให้ตนทำอย่างไรบ้าง ตอนนี้จึงกำลังรอคำวินิจฉัย จากผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ว่าต้องให้ทางเทศบาลนครพิษณุโลก และตนในฐานะนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ทำอย่างไรต่อ
“ช่วงนี้พี่ก็อยู่นิ่ง ๆ ไม่เข้าไปที่ทำงานในเทศบาลนครพิษณุโลก ไม่เซ็นต์หนังสือใดใด ปล่อยให้เทศบาลนครพิษณุโลกเป็นสูญญากาศสักระยะ เพื่อความสบายใจของหลาย ๆ ฝ่าย เวลานี้ต้องดูกฎหมายปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเหตุการณ์ที่นายชัยวัฒน์ คลศรีชัย ร้องผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกนั้น เกิดในช่วงปี 2546-2550 การกระทำต่างกรรมต่างวาระ ก็ต้องดูคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดและคำวินิจฉัยของผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างละเอียดก่อน เพราะตอนนี้ ผู้ว่าฯ ยังไม่มีคำสั่งใดใดออกมาให้ชัดเจนจึงไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไร ความรู้สึกช่วงนี้ก็ไม่ได้เครียดหรือกังวลใจอะไร ก็อยู่นิ่งรอฟังผลเราไม่อยากไปกดดันอะไรใคร ไม่ว่าผลจะออกอย่างไร เราก็ต้องทำตาม เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย”
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกว่า ได้พิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยเป็นอันยุติ ผู้ว่าฯได้เพิกถอนคำสั่งเดิมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและมีคำวินิจฉัยใหม่ว่า “นางเปรมฤดี ชามพูนท ขณะดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ปี 2546-2550 เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยทางอ้อมในสัญญาที่เทศบาลนครพิษณุโลก เป็นคู่สัญญากับโรงแรมอมรินทร์ลากูน ตามโครงการประชุมนายกเทศมนตรีและปลัดเทศบาลภาคเหนือ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2546 ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม 2546 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2546โครงการจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการสันนิบาตเทศบาลจังหวัดพิษณุโลก ในวันที่ 22 ธันวาคม 2549 และการประชุมนายกเทศมนตรีสตรีทั่วประเทศ ครั้งที่2 ประจำปี 2550 ระหว่างวันที่ 6 มีนาคม 2550 ถึงวันที่ 8 มีนาคม 2550 ตามมาตรา 48 จตุทศ วรรคหนึ่ง(3) แห่ง พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติเทศบาล(ฉบับที่ 12) พ.ศ.2546 อันเป็นผลให้ นางเปรมฤดี ชามพูนท ต้องตกเป็นบุคคล ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตามมาตรา 45(17) แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ประกอบมาตรา 48 เบญจ (3) แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเทศบาล(ฉบับที่ 12) พ.ศ.2546 และต้องพ้นจาก ตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 48เบญจ และกระทำการฝ่าฝืน มาตรา 48 จตุทศ ตามมาตรา 48 ปัญจทศ วรรคหนึ่ง (4)และ (8) แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2550 สั่ง ณ วันที่ 26 มกราคม 2555”
ซึ่งหลังจากคำสั่งดังกล่าวของ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก มีกระแสข่าวแจ้งว่า นางเปรมฤดี ชามพูนท ได้ไปขออำนาจศาลปกครองพิษณุโลก ให้ทุเลาการบังคับหรือระงับคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด
/////