วันที่ 27 มกราคม 2555 ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก พลโทวรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงความคืบหน้าของคดี พ.ต.ปิยะณัฐ เกษจำรัส หรือ ผู้กองณัฐ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ ปปส.จับกุมเนื่องจากพัวพันกับยาเสพติดรายใหญ่เมื่อวานที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ ปปส.ได้นำตัว ผู้กองณัฐ ไปดำเนินคดีแล้ว ซึ่งหลังจากทางกองทัพทราบข่าว ก็ให้หน่วยงานในสังกัดล็อคตัวผู้กองณัฐ ทันที เพื่อป้องกันการหลบหนี และทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มาสอบสวนที่กรมทหารช่างที่ 3 ทันที พร้อมกับนำตัวไปสอบสวนกรุงเทพ ส่วนจ.ส.อ.วีนัส สีใจ นั้นได้หลบไปแล้ว หลังจากทราบข่าวก่อนล่วงหน้า พร้อมกับทำทีเขียนใบลาป่วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะเร่งติดตามตัวเป็นการด่วน
“เรายืนยันตามที่ผู้บัญชาการทหารบกชี้แจง ทหารไม่ดี ทหารเลวไม่เลี้ยง เราให้ดำเนินคดีเต็มที่ ยิ่งเป็นทหารด้วยต้องลงโทษเป็นสองสามเท่าของผู้อื่น เพราะอาศัยเครื่องแบบในการลักลอบขนยาเสพติด ถามว่าจับได้ครั้งนี้รู้สึกอย่างไร ผมรู้สึกดีใจนะ บางคนอาจจะมองว่าเสียชื่อเสียง แต่ผมดีใจที่สามารถกำจัดคนไม่ดีออกจากกองทัพได้”แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าว
แม่ทัพภาคที่ 3 เผยต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่า ผู้กองณัฐ ได้เคยถูกเจ้าหน้าที่ ปปส.จับกุมในคดียาเสพติด และได้ถูกปปส.อายัดทรัพย์ไว้กว่า 3 ล้านบาทมาแล้ว ในปี 2552 ซึ่งทางต้นสังกัดคือกรมทหารช่างที่ 3 ได้อ้างว่า ทางปปส.ไม่ได้แจ้งมาที่หน่วย ผู้บังคับหน่วยไม่ทราบ ตนก็ตั้งข้อสังเกตุว่าทำไมให้ความสนใจเรื่องนี้น้อยเกินไป ทั้ง ๆ ที่หน่วยปกติต้องการปราบปรามยาเสพติดในหน่วยทหารให้หมดก่อน เพราะมีลูกหลานติดยาเสพติดจำนวนมาก ทำให้ผู้กองณัฐ ยังสามารถมาทำได้ตามปกติ จนกระทั่งมาก่อคดีร่วมกันลำเลียงยาบ้าล็อตใหญ่ดังกล่าว ส่วนจะปลดผู้กองณัฐ ออกจากราชการนั้น ขณะนี้ต้องรอระบบราชการ คือดำเนินคดีทางกฎหมาย ถ้ามีการส่งฟ้อง ก็จะต้องปลดจากราชการ ให้ออกตามสถานภาพในที่สุด
ส่วนการติดป้าย กอ.รมน. หน้ารถของผู้กองณัฐ ก็ถือว่าเป็นกระบวนการออกบัตรปลอม ที่ผู้ออกป้ายก็ได้เกษียณไปแล้วไม่ต้องมีการตรวจสอบแต่อย่างใด
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวอีกว่า กองทัพภาคที่ 3 ทำค่ายสีขาวมา 2 เดือนแล้ว ตนได้สั่งให้ทุกหน่วยในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ได้เร่งตรวจสอบทหารในหน่วยตนเองว่ามีส่วนเกี่ยวกับกับยาเสพติดบ้างหรือไม่ พร้อมทั้งให้ตรวจฉี่ทุกนาย ทุกเดือน หากพบว่ามีสีม่วงก็ให้รีบทำการรักษาและบำบัดทันที หรือ หากพัวพันเกี่ยวกับการค้ายาเสพติดก็ให้ดำเนินการจับกุมและรายงานให้ตนเองทราบทันที ซึ่งในเรื่องนี้ตนเองได้เข้มงวดมาโดยตลอดเกี่ยวกับกองทัพสีขาว ตั้งแต่ตนเองได้รับตำแหน่งแม่ทัพใหม่ๆแล้ว แต่ก็ยังมีการลักลอบอีก และเชื่อว่าในขณะนี้ยังมีนายทหารที่ลักลอบและพัวพันเกี่ยวกับยาเสพติดอีกหลายนาย ซึ่งตนเองยังพูดไม่ได้เนื่องจากต้องตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง