เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 18 มกราคม 2555 พ.ต.ท.ชาญชัย หาแก้ว รองผกก.สส. สภ.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีการยิงกันภายในร้านจำหน่ายทองวรราช เลขที่ 287 ม.7 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลกใกล้เคียงตลาดทรัพย์ไพรวัลย์หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สองคูหาเป็นร้านจำหน่ายทองรูปประพรรณและร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ บริเวณด้านหลังร้านทองพบเพียงกองเลือดสาดกระเซ็นทั่วบริเวณ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บพลเมืองดีช่วยเหลือนำส่งอนามัยแก่งโสภาแล้วทราบชื่อต่อมาคือ นางรุ่งทิพย์ อมรวิทย์ อายุ 45 ปี ซึ่งเจ้าของร้านจำหน่ายทองวรราชดังกล่าว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะ 1 แห่ง อาการสาหัสต้องเร่งส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลวังทอง แต่เนื่องอากระสุนเข้าไปทำลายส่วนสมองทำให้และเสียเลือดเป็นจำนวนมาก ผู้ได้รับบาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการชันสูตรในเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตมีร่องรอยบาดแผลฉกรรจ์ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด.32 คมกระสุนเข้าที่ขมับขวาหัวกระสุนไปตุงอยู่ที่ท้ายทอย ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนสั้นลูกโม่ขนาด.32 ตกอยู่ในที่เกิดเหตุจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายดิเรก รักษาศิล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 349 หมู่ 7 ต.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ สามีของผู้เสียชีวิตให้การว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองกับภรรยามีเรื่องทะเลาะวิวาทกันจนกระทั่งภรรยาได้ไปหยิบอาวธปืนมาข่มขู่ตนเองแต่ตนเองได้ยื้อแย่งและเก็บอาวุธปืนดังกล่าวเอาไว้ หลังจากนั้นก็ได้พูดคุยจนสงบสติอารมณ์เอาไว้ได้ ก่อนที่ตนเองจะออกมารับลูกค้าที่ร้านโทรศัพท์มือถือที่ร้านอยู่ติดกับร้านทองและด้านหลังร้านสามารถเดินทะลุถึงกันได้ ก่อนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงดังคล้ายอาวุธปืนแต่ก็ไม่เอะใจ จนกระทั่งมีลูกค้าเข้ามาซื้อทองและร้องตะโกนว่ามีผู้หญิงถูกยิง ตนจึงได้วิ่งมาดูและพบว่าภรรยาของตนเองใช้อาวุธปืนอีก 1 กระบอกยิงศีรษะตนเองได้รับบาดเจ็บนอนจมกองเลือด ตนจึงได้นำร่างของภรรยาส่งโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ทันการภรรยาเสียชีวิตระหว่างการเดินทาง
จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้นคาดว่านางรุ่งทิพย์ ผู้เสียชีวิต ก่อนเกดเหตุได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับสามีจนถึงขั้นเอาอาวุธปืนมาข่มขู่กัน แต่สามีได้แย่งอาวุธปืนไปเก็บไว้ที่ร้านจำหน่ายโทรศัพท์ซึ่งอยู่ติดกับที่เกิดเหตุและสามารถเดินทะลุถึงกันได้ที่บริเวณด้านหลัง ก่อนที่นายดิเรกจะออกไปขายโทรศัพท์มือถือ ส่วนทางด้านนางรุ่งทิพย์ ได้เกิดความเครียดได้ไปนำอาวุธปืนของสามีอีกกระบอกออกมายิงศีรษะตัวเองจนเสียชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งร่างผู้เสียชีวิตไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลพุทธชินราชเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งและจะเร่งสอบสวนหาสาเหตุของเรื่องนี้โดยละเอียดอีกครั้ง