วันกองทัพไทยและวันกองทัพบก

กองทัพไทยกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

นับตั้งแต่มีการก่อตั้งชนชาติไทย พระมหากษัตริย์ในอดีตได้ทรงนำทัพเข้าทำสงครามต่อสู้กับชนชาติต่างๆ เพื่อปกป้องดินแดนซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของบรรพบุรุษมาหลายครั้งหลายหน จนสามารถดำรงความเป็นเอกราชและรักษาอธิปไตยของชาติมาได้ถึงปัจจุบัน พระนาม “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” คือ พระนามของพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจ เป็นความภาคภูมิใจของกำลังพลทุกคนในกองทัพตั้งแต่ในอดีตในฐานะนักรบที่องอาจกล้าหาญ และมีคุณูปการต่อความเป็นเอกราชของชาติ    ความสามารถในด้านการรบ โดยเฉพาะเหตุการณ์ในครั้งที่พระองค์ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะแก่พระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี  เมื่อวันจันทร์ แรม  ๒ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง  ณ   ตำบลหนองสาหร่าย จังหวัดสุพรรณบุรี ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญยิ่งของกองทัพและปวงชนชาวไทย ที่พระมหากษัตริย์ไทยได้ทรงแสดงพระอัจฉริยะภาพในการรบ  และความเกรียงไกรของกองทัพให้ปรากฏแก่ชนชาติต่าง ๆ  จนเป็นที่ครั่นคร้ามและยำเกรงแก่ประเทศใกล้เคียง

สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเป็นนักการทหารที่ยิ่งใหญ่ มีความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม มีน้ำพระทัยเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ทรงโปรดการนำกองทัพออกสู้รบกับข้าศึกด้วยพระองค์เองทุกครั้ง นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นนักยุทธศาสตร์และยุทธวิธีที่ปราดเปรื่อง ได้ทรงพัฒนากลยุทธ์ และแนวความคิดใหม่ในการทำสงคราม เช่น การตั้งรับในเขตหน้า การใช้การลวง  การซุ่มโจมตี และการแสวงประโยชน์จากภูมิประเทศ ทำให้สามารถเอาชนะข้าศึกที่มีกำลังมากกว่าได้โดยมีการสูญเสียน้อยที่สุด

การกำหนดวันกองทัพไทยและวันกองทัพบก

นับตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๒ รัฐบาลในสมัยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้กำหนดให้  วันที่ ๘ เมษายน  ซึ่งเป็นวันระลึกวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม และถือเป็นวันที่มีการปรับปรุงการทหาร จากการจัดอัตรา กำลังแบบโบราณมาเป็นการจัดอัตรากำลังแบบปัจจุบันเป็นวันกองทัพไทย  เมื่อ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใน พ.ศ.๒๕๒๓  ได้ดำริว่า  วันกองทัพไทยควรเป็นวันที่มีความสำคัญและมีความหมายยิ่ง สำหรับทหารทั้งสามเหล่าทัพ พึงระลึกด้วยความภาคภูมิใจ ปลุกใจให้เกิดความรักและหวงแหนชาติบ้านเมืองและพร้อมที่จะสละชีวิตและเลือดเนื้อเป็นชาติพลี ตลอดจนส่งเสริมความสามัคคีในหมู่ทหาร  ทั้งเป็นที่ชื่นชมยินดีของปวงชนชาวไทยอีกด้วย  คณะรัฐมนตรีจึงมีมติกำหนดให้ วันที่ ๒๕ มกราคม  ซึ่งตรงกับวันกระทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชของ

ทุกปี

 

 

เป็นวันกองทัพไทย ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๔

 ในส่วนของกองทัพบก เดิมกำหนดให้วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่กองทัพไทยฉลองชัยชนะกรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส  โดยกระทำพิธีสวนสนามรับมอบดินแดนในอินโดจีน ที่จังหวัดพระตะบอง เป็นวันกองทัพบกตั้งแต่  พ.ศ. ๒๔๘๕        ต่อมาใน  พ.ศ. ๒๔๙๔  สภากองทัพบกได้เสนอขอวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะสมเด็จพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี  เป็นวันกองทัพบก ซึ่งผลการคำนวณในขณะนั้นตรงกับวันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๑๓๕  เนื่องจากพิจารณาเห็นว่า การกระทำยุทธหัตถีครั้งนั้น    นับเป็นการยุทธ์ทางบกครั้งยิ่งใหญ่    ชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้รับการกล่าวขวัญและสรรเสริญโดยทั่วไป วันดังกล่าวจึงเป็นวันที่มีความสำคัญยิ่งต่อปวงชนชาวไทย  เป็นวันที่คนไทยพึงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณด้วยความภาคภูมิใจ  สำนักนายกรัฐมนตรีจึงประกาศให้วันที่ ๒๕ มกราคม ของทุกปี เป็นวันกองทัพบก

ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๘  คณะรัฐมนตรีได้ลงมติอนุมัติให้วันที่   ๒๕   เมษายน  ของทุกปี     เป็นวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และวันที่   ๑๘  มกราคม ของทุกปี เป็นวันยุทธหัตถี ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามหลักฐานที่ราชบัณฑิตยสถานและคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติเสนอ ซึ่งเป็นผลทำให้ประวัติศาสตร์ของวันยุทธหัตถีเปลี่ยนไป ดังนั้น เพื่อดำรงความมุ่งหมายเดิมในการกำหนดวันที่ระลึกกองทัพไทย และกองทัพบก  รวมทั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับมติของคณะรัฐมนตรีดังกล่าว  กระทรวงกลาโหม และกองทัพบก  จึงได้พิจารณาเปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทย และวันกองทัพบก จากเดิมวันที่ ๒๕ มกราคม เป็นวันที่ ๑๘ มกราคม ของทุกปี  โดยเริ่มใช้ครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๐  เป็นต้นไป

การกำหนดชื่อค่ายทหารและการสร้างอนุสาวรีย์

พระนาม “นเรศวร” นอกจากจะเป็นที่ครั่นคร้ามของศัตรูในสมัยโบราณแล้ว กองทัพบกยังถือเป็น “มหามงคลนาม” และได้นำมาใช้ในกิจการด้านการทหาร เพื่อความเป็นมงคลอย่างสูง เช่น การใช้เป็นชื่อแผนยุทธการ, การขอพระราชทานตั้งชื่อค่ายทหาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองทัพภาคที่ ๓ ที่พิษณุโลกซึ่งเป็นเมืองที่ทรงพระราชสมภพ ว่า “ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๘ และได้จัดสร้างอนุสาวรีย์ของพระองค์ท่านประดิษฐาน เป็นที่เคารพสักการะของกำลังพล และประชาชนทั่วไป  ไว้

ภายในค่ายแห่งนี้ด้วย นอกจากนี้ในบริเวณค่ายโสณบัณฑิตย์ของกองพันทหารราบที่ ๕ กรมทหาร

 

ราบที่ ๗ ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน  ยังได้  จัดสร้างอนุสาวรีย์ของพระองค์ท่าน เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเป็นศูนย์รวมแห่งความจงรักภักดีของกำลังพลและประชาชนทั่วไป

     “วันกองทัพไทย” และ “วันกองทัพบก” ซึ่งเป็นวันครบรอบวาระที่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะแผ่พระบารมีให้ปรากฎในประวัติศาสตร์ชาติไทยนี้ จึงเป็นวันสำคัญที่กำลังพลในกองทัพทุกนายจะได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่ อันสำคัญยิ่งที่จะรักษาหวงแหน ปกป้องบ้านเมืองและสืบทอดเจตนารมณ์ของพระองค์ท่าน   เพื่อรักษาแผ่นดินนี้ให้เป็นมรดกของลูกหลานไทยสืบไป

                                                                           ร.ท.เสรี  ทองคู่  เรียบเรียงจากเอกสารข่าว ยศ.ทบ.

แสดงความคิดเห็น