เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 13 ม.ค. 2555 พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกุล ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกพงศ์ อมรมุณีพงศ์ ผกก.สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบขว้างโทรศัพท์และไฟแช๊คเข้าไปในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ผู้ต้องหาจำนวน 1 คน ทราบชื่อนายสราวุศ ประสงค์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/1 หมู่ 4 ต.วัดตายม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือจำนวน 11 เครื่อง เครื่องชาร์ท 11 อัน หูฟัง 11 อัน และไฟแช๊ค 50 อัน ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 รายทราบชื่อคือนายสันติ หรือต๊ะ ได้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไป
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก พ.ต.อ.เอกพงศ์ อมรมุณีพงศ์ ผกก.สภ.วังทอง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลกว่ามีผู้ต้องสงสัยลักลอบขว้างห่อกระดาษซึ่งภายในเป็นโทรศัพท์มือถือและไฟแช๊คเข้ามาในเรือนจำ หลังรับแจ้งจึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบพบผู้ต้องหาวิ่งหลบหนีออกมาจากข้างกำแพงเรือนจำและกระโดดลงไปในสระน้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าจับ นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาหลบหนีไป 1 ราย ทราบชื่อคือนายสันติ หรือต๊ะ
จากการสอบสวนในเบื้องต้นนายสราวุศ ให้การรับสารภาพว่าได้รับการชักชวนจากนายพิษณุ ว่ามีเพื่อนผู้ต้องหาในเรือนจำได้ว่าจ้างให้ลักลอบขว้างโทรศัพท์และไฟแช๊คเข้าไปในเรือนจำ โดยได้รับค่าจ้างเป็นยาบ้าจำนวน 300 เม็ด หรือประมาณ 90,000 บาทหลังจากทำงานเสร็จจะได้รับค่าจ้าง แต่ก่อนทำงานได้มีการโอนเงินเข้ามาในบัญชีจำนวน 1,000 บาทเพื่อใช้เป็นค่าเดินทาง ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองได้นั่งรถโดยสารมาจากบ้านพักและมาลงรถที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก
จากนั้นนายพิษณุ ได้ขับรถจักรยานยนต์มารับตนเองไปช่วยกันแพ๊คของกลางกันที่บ้านพัก หน้าค่ายบรมไตรโลกนาถ อ.วังทอง จากนั้นนายพิษณุ ได้ขับรถจักรยายนต์มาส่งหน้าเรือนจำและให้ตนเองเดินลัดเลาะเข้าไปข้างเรือนจำทิศตะวันออก ซึ่งตรงกับเรือนจำแดนที่ 3 จากนั้นตนเองก็ได้ขว้างของกลางทั้งหมดเข้าไปในเรือนจำก่อนที่จะหลบหนี แต่ก็มาถูกจับกุมได้ในที่สุด ถ้าสิ่งของดังกล่าวหลุดรอดเข้าไปในเรือนจำ โทรศัพท์จะมีราคาถึง 35,000 บาท ที่ชาร์ตโทรศัพท์ ราคา 6,000 บาท ไฟแช๊ค อันละ 500 บาท ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาลักลอบนำสิ่งต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำโดยไม่ได้รับอนุญาต