เสาร์ที่สองของปี 2555 วันที่ 14 มกราคม วันเด็กแห่งชาติ วันที่ประเทศไทยให้ความสำคัญจัดงานวันเด็กกันอย่างมากทุกจังหวัดทุกหน่วยงาน ด้วยมุ่งหวังสร้างกิจกรรมสันทนาการให้เด็กและเยาวชนได้กล้าคิด กล้าแสดงออก และให้เห็นความสำคัญของเด็กในวันนี้ ที่จะเติบโตไปเป็นกำลังของชาติในวันข้างหน้า และทุกยุคทุกสมัย ตามธรรมเนียมปฏิบัติ นายกรัฐมนตรี จะมอบคำขวัญเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติทุกปี วันเด็กปีนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบคำขวัญ “สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี”
ถึงวันเด็กคราใด ที่ผ่าน ๆ มาเรามักได้ยินคำพูดอยู่บ่อย ๆ “เด็กคืออนาคตของชาติ เด็กฉลาด ชาติเจริญ” ขณะที่ยุคนี้สมัยนี้ ปัญหาที่สำคัญของประเทศไทยอย่างหนึ่ง คือปัญหาคอร์รัปชั่น ปัญหาโกงกินบ้านเมือง สะท้อนให้เห็นรากเหง้าของปัญหา ที่ผู้ใหญ่วันนี้ มีคุณธรรมด้านจริยธรรมความซื่อสัตย์สุจริตน้อยมาก ดังนั้น จึงเห็นว่า แทบทุก ๆ โรงเรียน สถาบันการศึกษา ต่างพยายามสอนความซื่อสัตย์ให้กับเด็กและเยาวชน ตอบโจทย์ปัญหาในปัจจุบัน นั่นคือ โตไปไม่โกง
ที่โรงเรียนเทศบาล 3 วัดท่ามะปราง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ ตัวอย่างหนึ่งของสถาบันการศึกษา ที่ได้พยายามปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ด้านความซื่อสัตย์สุจริตให้กับเด็กนักเรียนมาอย่างต่อเนื่อง เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดท่ามะปรางทุกคน หากพบของมีค่าตกอยู่ภายในบริเวณโรงเรียน ไม่ว่าจะเงินเงินสลึง เงินบาท แบงก์ร้อย แบงก์ยี่สิบ หรือ กระเป๋าสตังค์ของใครก็ตาม เด็กจะเก็บไปมอบให้กับคุณครู เพื่อประกาศตามหาเจ้าของให้มารับคืน
เมื่อตั้งคำถามกับเด็กเหล่านั้นว่าทำไมถึงทำอย่างนั้น เด็ก ๆ จะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ใช่ของของเรา เป็นของคนอื่น และหลายคนต่างมีประสบการณ์เก็บเงินเพื่อตามหาเจ้าของต่างกัน บางคนเก็บได้ 10 บาท บางคนเก็บเงินได้ 50 บาท บางคนก็เจอแบงก์ร้อย เงินเหล่านี้ ถ้าแปลงสภาพเป็นขนมคบเคี้ยวหรือน้ำหวานอร่อย ๆ ก็ง่ายนิดเดียว แต่เด็ก ๆ เหล่านี้ ไม่เก็บไว้เป็นของตัวเอง เก็บได้เท่าไหร่ มาอย่างไร นำไปมอบให้ครูเพื่อประกาศตามหาเจ้าของทั้งหมด
ถามต่อไปว่า ทำอย่างนี้แล้วรู้สึกอย่างไร ตั้งแต่ป.1ยันป.6 ตอบเสียงเดียวกันว่า รู้สึกดีใจ รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำความดี
นางนิดารัตน์ ปัตตวงษ์ อาจารย์ประจำชั้นป.1 โรงเรียนเทศบาล 3 วัดท่ามะปราง ผู้ริเริ่มโครงการ”หนูดีเก็บได้ให้คืน” เปิดเผยว่า โรงเรียนได้เริ่มโครงการหนูดีเก็บได้ให้คืนมาตั้งแต่ปี2548 ต้องการปลูกฝังจิตสำนึกด้านคุณธรรมจริยธรรมให้กับเด็กนักเรียน โดยอบรมให้เด็กนักเรียนให้รู้ถึงหน้าที่พลเมืองดี การเก็บสิ่งของต่าง ๆ ภายในโรงเรียนได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินไม่กี่บาท กระเป๋า สมุด ปากกา นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ ในโรงเรียนได้ ให้รีบนำมาส่งมอบให้กับคุณครูที่ห้องธุรการ เพื่อประกาศหาเจ้าของ โรงเรียนมีบันทึกว่า นักเรียนชั้นไหนเก็บได้เท่าไหร่ จะมีใบประกาศ ทำบันทึกถึงผู้ปกครองว่า บุตรหลานของท่านทำความดีอะไรไว้บ้าง หากมีเงินเหลือ ไม่มีผู้มาแสดงตนรับ โรงเรียนก็จะนำมาทำกิจกรรมในเทศกาลต่าง ๆ ในช่วงวันปีใหม่ วันเด็ก และนับแต่เริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2548ถึงปัจจุบัน มีเด็กนักเรียนเก็บเงินภายในโรงเรียนแล้วนำส่งให้ครูประกาศหาเจ้าของเป็นเงินร่วม 6,000 บาท