เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 4 ม.ค.54 นายสมจิต สัจสัญญาวุฒิ ผู้บัญชาเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ได้แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาที่กำลังจะก่อเหตุลักลอบขว้างโทรศัพท์มือและไฟแช็ค เข้าไปในเรือนจำนวนจังหวัดพิษณุโลกซึ่งได้ผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย คือ นายหนุ่ม อายุ 17 ปี (นามสมมุติ) อยู่บ้านเลขที่ 49/349 ซ.นิมิตใหม่ 34 แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพ และนายอาร์ต อายุ 17 ปี (นามสมมุติ) 163/3 ม.2 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง ที่ชาร์ตแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ 5 อัน ไฟแช็ค 42 อัน แท่งแก้ว 2 แท่ง ซึ่งสิ่งของทั้งหมดถูกห่อหุ้มด้วยกระดาษกาวสีน้ำตาลจำนวน 2 ก้อน รถจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีน้ำเงิน ทะเบียน ขขษ – 538 พิษณุโลก หมวกกันน็อกจำนวน 2 ใบ
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เรือนจังหวัดพิษณุโลก ได้ออกตรวจพื้นที่บริเวณด้านนอกเรือนจำ เพราะช่วงที่ผ่านมีคนร้ายลักลอบนำสิ่งของต้องห้ามขว้างเข้าไปในเรือนจำให้นักโทษอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งมาถึงบริเวณด้านหลัง ซึ่งติดกับที่คุ้มขังนักโทษแดน 5 พบนายกนุ่มนอนหมอบอยู่บริเวณคันคลองพร้อมกันของกลางถูกพันด้วยกระดาษกาวจำนวน 2 ห่อ จึงได้ควบคุมตัว และตามไปจับกุมนายอาร์ต ซึ่งรออยู่ที่รถจักรยายนต์ห่างจากจุดเกิดเหตุเล็กน้อย
เบื้องต้นทั้งสอง ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากรุ่นพี่ชื่อเอก อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ให้นำส่งของมาขว้างเข้าไปในเรือนจำ เมื่อทำงานเสร็จจะให้ค่าจ้าง 30,000 บาท กระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเอกได้นำส่งของดังกล่าวมาให้ตนทั้งสองที่บ้าน จากนั้นได้พากันขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาทางเรือนจำกลาง ก่อนจะเดินลัดเลาะมาข้างกำแพงเรือนจำจังหวัดพิษณุโลกกำลังจะขว้างโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำ แต่มีเจ้าหน้าที่เรือนจำผ่านมาพบ และจับกุมได้เสียก่อน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาพยายามลักลอบนำสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำทำการขยายผลการจับกุมผู้จ้างวานต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่เรือนจำ เปิดเผยว่า สิ่งของและอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ หลังจากลักลอบเข้าไปในเรือนจำได้จะมีราคาสูงมาก โดยเฉพาะตัวโทรศัพท์ธรรมดาเครื่องละ 35,000 บาท หากเป็นเครื่องหน้าจอแบบสไลด์เครื่องละ 50,000 บาท เครื่องชาร์ตตัวละ 6,000 บาท ไฟแช็คแก๊สทั่วไปที่ขายอันละ 5 บาท หากลักลอบเอาเข้าไปในเรือนจำได้ ราคาจะสูงมาก อันละ 500 บาท