เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน ร.ต.อ.มนตรี แดงดี พนักงานสอบสวน(สบ.1) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในซอยถนนพระร่วง พบเห็นกลุ่มควันดำลอยพุ่งออกมาจากชั้นสองของบ้านพักอาศัยภายในซอยดังกล่าวจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อประสานหน่วยดับเพลิงเพื่อรีบมาระงับต้นเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกลามไปไหม้บ้านประชาชนบริเวณใก้ลเคียงเนื่องจากเป็นแหล่งชุมชนแออัด หลังรับแจ้งจึงประสานหน่วยงานบรรเทาสาธารณะพัยเทศบ่าลนครพิษณุโลก เพื่อนำรถน้ำออกปฏิบัติหน้าที่ยังจุดดังกล่าว ที่เกิดเหตุบริเวณถนนพระร่วงเป็นซอยขนาดเล็ก สร้างความยากลำบากในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเป็นอย่างมาก ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นก่อสร้างด้วยปูนมีกลุ่มควันดำจำนวนมากกำลังพวยพุ่งออกมาจากชายหลังคาและหน้าต่างห้องบนชั้นสองของบ้านเลขที่ 56/16 ถ.พระร่วง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก แต่ประตูถูกล็อกกุญแจไม่สามารถเข้าไปได้ทราบชื่อเจ้าของบ้านคือนางชญาพร พิพัฒนานันท์ อายุ 50 ปี ประกอบอาชีพเป็นหัวหน้าฝ่ายอุทธรณ์ภาษีอากร 2 สำนักงานสรรพากรภาค 7 บ้าน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งติดต่อเจ้าของบ้านให้เดินทางมาที่เกิดเหตุเพื่อที่จะเปิดประตูบ้านหลังดังกล่าวออกเพื่อความสะดวกต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถบรรทุกน้ำกว่า 10 คันและใช้เวลานานร่วม 2 ชัวโมงจึงระงับเพลิงให้สงบลงได้ โชคดีที่ไม่มีใครนอนอาศัยอยู่ภายในบ้านขณะที่เกิดเหตุเพลิงลุกไหมจึงไม่เกิดเหตุโศกนาฎกรรมขึ้น แต่เหตุเพลิงไหมครั้งนี้ได้เผาเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่นอนฟอร์นิเจอร์ต่างๆภายในห้องเกือบหมดเหลือเพียงตู้ใส่เสื้อผ้าที่ยังอยู่
จากการสอบสวนนายสุขติชาติ กล่อมจิต อายุ 63 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 56/12 ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุ ได้เล่าว่าเมื่อช่วงเวลาดังกล่าวตนได้นอนอยู่ภายในบ้านของตัวเอง และได้ยินเสียงพนักงานส่งไปรษณีย์ กดกริ่งบ้านเพื่อให้ออกมารับจดหมายและขนะที่ตนกำลังจะเดินหันหลังกลับเข้าบ้านได้สังเกตุเห็นว่ามีกลุ่มควันสีดำได้ลอยออกมาจากชายหลังคาบ้านฝั่งตรงข้ามจึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาระงับเหตุในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สันนิษฐานว่าจากเหตุครั้งนี้ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เดินทางออกไปทำงานนอกบ้านกันหมดทั้งบ้านและไม่ได้ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดภายในบ้านออกจนเป็อนเหตุให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นและเกิดประกายไฟก่อนที่จะลุกไหมหัวเตียงนอนผ้านวมและผ้าห่มที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีก่อนที่จะลุกลามไปทั่วห้องแต่ยังโชคดีไม่มีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ และหลังจากตรวจสอบความเสียเจ้าของบ้านระบุว่า มีเครื่องเพชรทองที่อยู่บนหัวเตียงได้หายไปด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ จะเข้ามาตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
///
ชมภาพวีดีโอ
[media id=151 width=480 height=360]