เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 54 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายภิเษก บูรณะเขต อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1 ม.5 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก ว่าพบลูกนกกระจอก ที่มีความแตกจากจากนกกระจอกทั่วไป คือ มีขนสีขาวตามลำตัวมากกว่านกกระจอกทีมีอยู่ทั่วไป และไม่เคยพบเห็นมาก่อน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบว่าบริเวณดังกล่าว เป็นบ้านพักอาศัย โดยเปิดเป็นฟาร์มเลี้ยงนกเขาชวา และเลี้ยงไก่ชน ชื่อฟาร์ม บี อาร์ ที หรือ หรือเรียกชื่อภาษาไทยว่า ฟาร์มบูรณะไทย ภายในมีกรงเลี้ยงนกเขาชวา และไก่ชนจำนวนมาก สอบถาม ทราบว่าเปิดเลี้ยงไก่ชนและนกเขาชวามานานหลายสิบปีแล้ว
นายภิเษก เจ้าของฟาร์ม เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเพาะเลี้ยงลูกนกเขาชวา และลูกไก่ชนขาย จึงทำให้ภายในฟาร์มมีจำนวนมาก ส่วนลูกนกกระจอกนั้น ตนมาพบเมื่อช่วง 5 วันที่ผ่านมา ขณะที่เดินผ่านต้นชมพู ที่ปลูกติดอยู่กับอาคารเลี้ยงไก่ชนกับนกเขาชวา ปรากฏว่ามีลูกนกกระจอกตกลงมาจากรังอยู่ใต้ต้นชมพู สังเกตเห็นเป็นลูกนกกำลังจะหัดบิน แต่ที่แปลกประหลาดก็คือมีขนสีขาวตามปีกและหาง ผิดกับนกกระจอกทั่วไป ตนจึงได้จับเอามาเลี้ยงไว้ในกรง เพราะเห็นว่าเป็นนกกระจอกที่มีขนสีขาวแปลกจากปกติ ซึ่งนกกระโดยทั่วไปจะมีเพียงขนสีเทาหรือน้ำตาลเท่านั้น หลังจากนำมาเลี้ยงในกรงพ่อแม่นกกระจอกยังบินคาบอาหารมาป้อนข้างกรงอยู่ทุกวัน
นายภิเษก กล่าวว่า ลูกนกตัวนี้อายุประมาณ 50 วัน หลังจากนำมาเลี้ยงไว้ ตนก็มาเปิดตำราหนังสือดูนก หนังสือเกี่ยวกับนกดูโดยเฉพาะ อยากจะรู้ว่านกกระจอกมีสีอะไรบ้าง พบว่าตามหนังสือยืนยันจะมีสีน้ำตาลเป็นหลัก และสีเทา ส่วนนกกระจอกสีขาวไม่เคยพบเห็นหรืออมีมาก่อนเลย ซึ่งตนถือว่าเป็นเรื่องแปลกเช่นกัน เพราะตนเองคลุกคลีกับการเลี้ยงสัตว์มานาน และศึกษาเกี่ยวเรื่องนกและไก่มาไม่น้อย แต่ไม่เคยพบเห็นนกกระจอกมีสีขาวแต่อย่างใด ถือว่าเป็นนกกระจอกที่มีสีสีขาวแปลกแตกต่างจากปกติ ถึงแม้จะไม่ขาวทั้งตัวก็ถือว่าส่วนขนสีขาวมากที่สุด ตอนนี้ตนได้ติดต่อสวนนกไทยศึกษา ซึ่งอยู่ในตัวเมืองพิษณุโลก และจะมอบให้เพื่อนำไปเลี้ยงเอาไว้ เพื่อจะศึกษาทางวิชาการ หรือผู้ที่ต้องการดูก็ไปดูได้ตลอดเวลาที่สวนนกไทยศึกษา