เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 9 พ.ย. 54 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เอกภพ พรมราช ร้อยเวรสภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตที่ใกล้กับร้านข้าวต้มปักนั้ง 50 ปี ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงหนังเก่าเจริญผล ต.ในเมือง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย เกิดช้าง ผกก. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จุดเกิดเหตุพบศพชายนอนเสียชีวิต ข้างรถยนต์เก๋งโตโยต้าสีขาว หมายเลขทะเบียน ก-4600 พิษณุโลก สภาพนอนตะแคงคดคู้ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีชมพู นุ่งกลางเกงยีนส์ขายาว พับขาขึ้นมาถึงน่อง และนุ่งกางเกงขาสั้นเอวยืดด้านใน ตามร่างตัวมีลายสักมังกรคู่ และลายสักยันต์ทั่วทั้งตัว ชันสูตรศพถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่ซีกโครงขวากระสุนทะลุออกซี่โครงซ้าย และที่บริเวณท้ายทอยกระสุนทะลุหน้าผาก แต่ไม่พบหลักฐานในตัวว่าเป็นใคร มีเพียงโทรศัพท์มือถือ และไฟแช็คอยู่ในกระเป๋ากาง
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบร่องรอยที่เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่ง ทั้งรอยนิ้วมือที่ติดอยู่กับรถเก๋ง นอกจากนั้นยังพบรอยรองเท้าของคนร้ายที่เหยียบขึ้นไปบนฝากระโปรงหน้า คาดว่าขณะที่ผู้ตายวิ่งมาหลบที่ข้างรถยนต์เก๋ง คนร้ายสองคนที่วิ่งไล่มาทันคนหนึ่งวิ่งสกัดด้านหลัง ส่วนอีกคนร้ายที่เป็นมือปืนได้ขึ้นไปยืนอยู่บนฝากระโปรง ก่อนจะใช้ปืนยิงใส่ไป 1 นัด ส่วนอาวุธปืนน่าจะเป็นลูกซองสั้น กระสุนขนาดเบอร์ 9 หรือที่เรียกว่าลูกโดด ทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าผู้เสียชีวิตอาจเดินทางมาเที่ยวงานเทศกาลลอยกระทง ที่ทางเทศบาลนครพิษณุโลกจัดขึ้น บริเวณริมแม่น้ำน่าน ตั้งแต่เชิงสะพานนเรศวรถึงเชิงสะพานเอกาทศรถ ถนนพุทธบูชา อ.เมือง จ.พิษณุโลก ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร เมื่อเลิกงานได้ท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน และเกิดทะเลาะวิวาทกับวัยรุ่นอีกกลุ่ม จากนั้นได้มีวันรุ่นผิวดำตัวอ้วนเตี้ย และผมสูงสวมเสื้อสีขาว วิ่งไล่ยิงตามกันมาจากในย่านตลาดไนท์บาซาร์ ก่อนมาจ่อยิงระยะเผาขน ผู้เสียชีวิตที่แอบหลบข้างรถยนต์เก๋งจนเสียชีวิต ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
เช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายกฤษณพงศ์ กุศลส่ง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28//24 ถนนสิงหวัฒน์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกับญาติมาให้รายละเอียดและสอบสวนเกี่ยวกับผู้ตาย เพื่อจะทำการสอบสวน และเร่งติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ จุดเกิดเหตุอยู่กลางใจเมืองพิษณุโลก และห่างจากสถานีตำรวจไม่มาก
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ชมภาพวีดีโอ
[media id=140 width=480 height=360]
แสดงความคิดเห็น