ร.ต.ท.รชากรณ์ ช่อลำไย พนักงานสอบสวน(สบ.1)สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งเหตุยิงกันที่บริเวณบ้านเลขที่ 6 หมู่ 8 ต.มะขามสู. อ.เมืองพิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับพร้อมรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.สมชาย เกิดช้าง ผกก. สภ.เมืองพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งที่เกิดเหตุเป็นปลูกกระท่อมชั้นเดียวยกสูงบริเวณหน้าบ้านพักพบเพียงรอยเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลรัตนเวช 2 ไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อต่อมาคือนายเสวก ศรีแก้ว อายุ 41 ปี เจ้าของบ้านพักหลังที่เกิดเหตุ มีที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 30/2 หมู่ 11 ต.มะขามสู. อ.เมืองพิษณุโลก ผู้ตามสวมกางเกงขาสั้นสีเทา ไม่สวมเสื้อ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่กลางหลัง สีข้างด้านซ้าย ลำคอ รวม 12 แห่ง อาการสาหัส และเสียชีวิตระหว่างการนำส่งโรงพยาบาล
จากการสอบสวนนางละมัย ศรีแก้ว อายุ 40 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิตให้การว่า ตนเองพร้อมด้วยสามีประกอบอาชีพเลี้ยงไก่เนื้อส่งขายที่บริษัทเบทาโก เมื่อช่วงเย็นวันนี้หลังจากที่ตนเองพร้อมด้วยสามีเข้าไปให้อาหารไก่และดูแลความเรียบร้อยในฟาร์มไก่ที่เลี้ยงไว้ 1 หมื่นตัว ก็ได้กลับมาที่เพิงพักซึ่งอยู่ห่างจากฟาร์มไก่ประมาณ 30 เมตร หลังจากที่รับประทานอาหารเย็นเสร็จตนพร้อมกับผู้ตายได้เข้าพักผ่อนโดยที่ตนเองนอนหลับไป ส่วนสามีนอนดูโทรทัศน์อยู่ ก่อนเกิดเหตุคาดว่าสามามีได้ยินเสียงผิดปกติดังมาจากฟาร์มไก่ สามีได้คว้าหนังสติ๊กออกมาที่หน้าบ้านพัก จากนั้นตนเองต้องสะดุ้งตื่นเพราะว่ามีเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 1 นัด ตนจึงได้รีบวิ่งออกไปดูพบว่าสามีถูกยิงนอนจมกองเลือดอยู่หน้าบ้านพักตนจึงได้ไปตามน้องเขยที่มีบ้านพักอยู่ใกล้กันมาช่วยเหลือนำร่างของสามีนำส่งโรงพยาลแต่ก็ไม่ทันการสามีเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นางละมัย ภรรยาเหยื่อโหดรายนี้เปิดเผยว่าตนเองและสามีก็ไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อนไม่ทราบเลยว่าสาเหตุที่คนร้ายมาลอบยิงสามีตนเองนั้นมาจากเรื่องอะไร อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้นคาดว่า อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะว่าผู้ตายเคยมีเรื่องแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในฟาร์มไก่ ทำให้คนร้ายที่ถูกจับกุมโกรธแค้นย้อนกลับมายิงนายเสวกจนเสียชีวิต หรืออาจจะเป็นคนร้ายที่เข้ามาพยายามลักทรัพย์แต่นายเสวกออกมาพบจึงได้ก่อเหตุดังกล่าวก่อนที่จะหลบหนี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป