นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่หลายจังหวัดทั่วประเทศขณะนี้ เป็นอุปสรรคต่อการเข้ารับบริการฟอกเลือดของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ขณะเดียวกันมีโรงพยาบาลในพื้นที่น้ำท่วมไม่สามารถบริการผู้ป่วยประจำของตนได้ ดังนั้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าวดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ดำเนินการเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการฟอกเลือดได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้สถานพยาบาลของเอกชนสามารถเข้าร่วมให้บริการผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในภาวะอุทกภัยด้วย
นายแพทย์ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการสปสช. กล่าวว่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ลดภาระทางการเงินของผู้ป่วยไตวายที่ต้องฟอกเลือดและเป็นไปตามนโยบายของ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สปสช.ได้ประสานสถานพยาบาลของรัฐและเอกชนในการรับผู้ป่วยไตวายในพื้นที่น้ำท่วมให้สามารถฟอกเลือดได้ต่อเนื่อง ปัจจุบันผู้ป่วยไตที่ต้องฟอกเลือดทุกคนได้รับการส่งต่อไปยังหน่วยบริการฟอกเลือดแล้ว และสปสช.ได้ยกเลิกการร่วมจ่ายค่าฟอกเลือดของผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม
ทั้งนี้ สำหรับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ใช้วิธีการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมและอยู่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมหรือได้รับความเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วม ทั้งที่เป็นผู้ป่วยรายเก่าที่ใช้วิธีฟอกเลือดก่อนวันที่ 1 ต.ค.51 ซึ่งต้องร่วมจ่ายค่าฟอกเลือดไม่เกินครั้งละ 500 บาท หรือผู้ป่วยรายใหม่ที่ใช้วิธีฟอกเลือดหลังวันที่ 1 ต.ค.51 ที่ต้องรับผิดชอบค่าฟอกเลือดทั้งหมดด้วยตนเอง ให้ผู้ป่วยดังกล่าวสามารถใช้บริการฟอกเลือดยังสถานพยาบาลฟอกเลือดประจำ หรือหากไม่สามารถใช้บริการได้ที่เดิมและถูกส่งตัวไปรักษาที่สถานพยาบาลอื่นตามที่สปสช.ได้ประสานงานเนื่องจากภาวะน้ำท่วม ก็ไม่ต้องร่วมจ่ายค่าฟอกเลือด
“สถานพยาบาลฟอกเลือดอื่นๆที่เข้าร่วมให้บริการผู้ป่วยไตในภาวะน้ำท่วมนี้จะได้รับค่าบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมจากสปสช.ในอัตราครั้งละ 1,500 บาท หรือครั้งละ 1,700 บาท และไม่ให้เรียกเก็บค่าฟอกเลือดเพิ่มจากผู้ป่วย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค.54 เป็นต้นไป จนกว่าภาวะอุทกภัยจะบรรเทาและสปสช.ได้ประการสหรือมีหนังสื่อยกเลิกล่วงหน้า สำหรับรายละเอียดและแนวทางการให้บริการนั้น สถานพยาบาลฟอกเลือดทั้งภาครัฐและเอกชนสามารถประสานกับสปสช. หรือ สปสช.เขต หรือสอบถามสายด่วนสปสช.1330” รองเลขาธิการ สปสช.กล่าว