นายบุญยิ่ง คุ้มสุพรรณ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ขณะนี้ยังมีพื้นที่ที่ยังประกาศเป็นเขตภัยพิบัติอุทกภัยเหลืออยู่เพียง 4 อำเภอ 25 ตำบล 192 หมู่บ้าน พื้นที่เกษตรเสียหาย 6 แสนไร่ ในพื้นที่ อำเภอพรหมพิราม บางระกำ บางกระทุ่ม และเมืองพิษณุโลก โดยระดับน้ำยังคงท่วมสูง กว่า 1 เมตร และเริ่มลดระดับลงหลังแม่น้ำน่านลดต่ำกว่าตลิ่งเกือบ 5 เมตร คาดว่าจะใช้เวลาน้ำจะลดลงเข้าสู่ปกติประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน มูลค่าความเสียหายของจังหวัดพิษณุโลกคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท
นายบุญยิ่ง กล่าวว่า เฉพาะอำเภอบางระกำ ระดับน้ำอาจลดลงช้าที่สุด เนื่องจากเป็นพื้นที่หน่วงน้ำ ที่ทางชลประทานพิษณุโลกได้ระบายน้ำไปตามทุ่งนาเพื่อชะลอการไหลลงของน้ำไม่ให้ไหลไปซ้ำเติมพื้นที่ทางภาคกลางและกรุงเทพมหานคร โดยในช่วงสัปดาห์หน้า ทางชลประทานจะสอบถามข้อมูลจาก จ.พิจิตรและนครสวรรค์ เพื่อเริ่มระบายแม่น้ำยมลงแม่น้ำน่าน ว่าจะส่งผลให้มีระดับน้ำไปซ้ำเติมทางจังหวัดทางตอนล่าง
ส่วนการช่วยเหลือช่วงนี้ ได้สำรวจถนนที่ถูกน้ำท่วมกว่า 200 สาย เพื่อกระจายของบประมาณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการซ่อมแซม บำรุงรักษา ซึ่งจะใช้เงินกว่า 100 ล้านบาท นำรองเท้าบู๊ช 3,000 คู่ และเรือ ส่งไปช่วยในพื้นทั้งที่ 4 อำเภอที่ยังประสบภัย
จากการตรวจสอบดูสภาพระดับแม่น้ำน่าน ในพื้นที่เขตเทศบาลนครพิษณุโลก พบว่าระดับน้ำน่านลดลงอย่างชัดเจน ผิดจากช่วงที่น้ำน่านเอ่อไหลล้นตลิ่ง ซึ่งแตกต่างกันชัดเจน ทางเทศบาลได้ให้คนงานทำความสะอาดและเก็บดินโคลนที่ไหลมากับน้ำกองทับถมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณทางคอนกรีต ซึ่งเป็นทางวิ่งออกกำลังกายติดกับแม่น้ำน่านที่ถูกน้ำท่วม นอกจากนั้นต้นไม้ดอกไม้ประดับถูกน้ำท่วมยืนต้นตายไปเป็นจำนวนมากได้ทำการสำรวจก่อนทำการฟื้นฟูให้กับมาเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนเขตเมืองพิษณุโลกเหมือนเดิมหลังจากถูกน้ำท่วมนานถึง 3 เดือน