อ้างเป็นตร.รีดเงินแลกกับไม่ดำเนินคดียาเสพติด

 เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 ต.ค. พ.ต.อ.สมชาย  เกิดช้าง  ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พ.ต.ต.ปริญญา  ทองมา สารวัตรประจำสถานีตำรวจชุมชนมหาวิทยาลัยนเรศวร ต.ท่าโพธิ์  อ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกับพวกได้ร่วมกับจับกุมผู้ต้องหาในคดีที่คนร้ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงตัวตรวจค้นผู้เสียหายข่มขู่ที่จะยัดยาเสพติดและเรียกเงินเพื่อแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัวได้ผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายศิรัตน์  ตันสละ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/001 หมู่ 2 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งชุดจับกุมสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักที่หมู่ 3 ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก พร้อมของกลางรถจักรยายนต์ยี่ห้อ คาวาซากิ รุ่นเซอร์ปิโก้ สีฟ้า-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถจักรยายนต์ที่ผู้ต้องหาใช้ขับขี่เพื่อตะเวนหน้าเหยื่อเพื่อรีดไถขู่กรรโชกทรัพย์

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา นายวรุฒ  มากศรทรง อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 11 ต.มะต้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สถานีตำรวจชุมชนมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าตนเองทำงานเป็นลูกจ้างร้านน้ำแข็งบริเวณด้านหลังมหาวิทยาลัยนเรศวร วันเกิดเหตุตนได้ออกมาซื้อของพบคนร้ายซึ่งทราบชื่อต่อมาคือนายศิรัตน์  ขับรถจักรยายนต์ผ่านมา ซึ่งแต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวขอตรวจค้นตนเอง และข่มขู่ว่าตนเองมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดซึ่งถ้าไม่อยากถูกนำส่งดำเนินคดีให้นำเงินมาให้จำนวน 5,000 บาท  จากนั้นได้บังคับให้ตนเองนั่งซ้อนรถจักรยายนต์ไปตาสถานที่ต่างๆและบังคับให้โทรศัพท์ไปแจ้งกับผู้ปกครองเพื่อนำเงินมามอบให้เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ด้วยความกลัวตนเองจึงได้โทรศัพท์ไปหาบิดาเพื่อให้นำมาให้โดยคนร้ายได้นัดแลกเปลี่ยนกันบริเวณด้านหลังมหาวิทยาลัยนเรศวร และเปลี่ยนที่รับเงินอยู่หลายครั้งเพราะคนร้ายเกรงว่าจะถูกซ้อนแผนจับกุม และไหวตัวทันปล่อยตัวนายวรุฒ ผู้เสียหายก่อนที่จะขับรถจักรยายนต์หลบหนี ซึ่งชุดสืบสวนได้เร่งออกหาข่าวและสามารถจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด

จากการสอบสวนนายศิรัตน์  ผู้ต้องหาในคดีให้การรับสารภาพว่าในวันเกิดเหตุตนเองซึ่งกำลังตกงานได้ขับขี่รถจักรยายนต์คันดังกล่าวออกมาบริเวณด้านหลังมหาวิทยาลัยนเรศวรจึงได้วางแผนที่จะปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อข่มขู่พวกที่เสพยาเสพติดโดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอตรวจค้นถ้าหากไม่พบสิ่งผิดกฎหมายก็จะอ้างว่าจะพาไปตรวจปัสสาวะที่โรงพักถ้าหากพบปัสสาวะเป็นสีม่วงก็จะถูกดำเนินคดีแต่ถ้าหากไม่อยากถูกดำเนินคดีให้ผู้ปกครองหรือญาตินำเงินมามอบให้กับตนเองเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนในการปล่อยตัวบางครั้งพบผู้เสพยาเสพติดจริงก็จะได้เงินแต่บางครั้งผู้เสียหายยืนกรานว่าไม่มีความผิดก็จะปล่อยตัวและหลบหนีเพราะเกรงว่าจะถูกจับกุมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตัวจริง ซึ่งตนเองได้ทำมาแล้วหลายครั้งในเบื้องต้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่ง พ.ต.ท.เดชประยูร  สิงหาเดช พนักงานสอบสวน(สบ.3)สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อดำเนินคดีในข้อหา กระทำการเป็นเจ้าพนักงานและกรรโชกทรัพย์

 

แสดงความคิดเห็น