ช่วงค่ำวันที่ 22 พ.ย. 2553 เกิดเหตุชาวกัมพูชาไปเที่ยวงานลอยกระทงในกรุงพนมเปญเหยียบกันตายอย่างน้อย 339 ศพ สาเหตุจากความแตกตื่นของฝูงชน ในช่วงเดียวกันเดือนพย.2553 จังหวัดพิษณุโลกเองก็จัดงานลอยกระทงได้ยิ่งใหญ่มากเช่นกัน และเป็นปีที่มีฝูงชนมาเที่ยวงานกันจำนวนมากมาก ทั้งคนและรถเดินกันจนแน่นพื้นที่เต็มสะพานนเรศวรและถนนหน้าวัดใหญ่
ปีนี้ 6-10 พฤศจิกายน 2554 จังหวัดและเทศบาลกำหนดจัดงานลอยกระทงให้ยิ่งใหญ่ งานเทศกาลลอยกระทงประเทศไทยของจังหวัดพิษณุโลก ใช้ชื่อ “ย้อนยุคทั่วไทย สุขใจที่พิษณุโลก” ซึ่งกำหนดจัดงานในระหว่างวันที่ 6-10 พฤศจิกายน 2554 ณ บริเวณหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จากสะพานนเรศวรจนถึงสะพานเอกาทศรถ และถนน ริมฝั่งลำน้ำน่านทั้ง 2 ฝั่ง
เชื่อว่าชาวพิษณุโลกและใกล้เคียงจำนวนมากจะมาเที่ยงงานลอยกระทงที่จังหวัดพิษณุโลก และคงไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว ปีนี้ ชาวเมืองพิษณุโลกเองตรึงเครียดกับการลุ้นวิกฤติแม่น้ำน่านท่วมเมืองมาร่วมสองเดือน ผู้ว่าฯพิษณุโลกก็ใช้คำว่า เป็นการเปิดเมืองครั้งแรกหลังจากประสบภัยน้ำท่วม การจัดงานจึงต้องยิ่งใหญ่ สวยงาม ต้องมีการประดับประดาตกแต่งเมือง ประดับไฟให้อลังการทั้งเมืองและตลอดลำน้ำน่านทั้งสองฝั่ง กิจกรรมที่จะจัดขึ้นจะต้องโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนหรือโชว์ถึงวิถีของการลอยกระทงของทั้ง 75 จังหวัดที่มารวมอยู่ที่พิษณุโลกและกระทงโลก เพื่อให้สังคมรับรู้ว่า หากจะเที่ยวลอยกระทงประเทศไทยให้มาเที่ยวได้ที่พิษณุโลกแห่งเดียว
แผนรักษาความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เชื่อว่าจังหวัด เทศบาลนครพิษณุโลก รวมถึงตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลกคงเตรียมการไว้แล้ว แต่อยากให้นึกถึงการลองรับฝูงชนจำนวนมาก จุดเสี่ยงที่อาจจะเกิดการเบียดเสียดจนแออัด หากเกิดเหตุการณ์อลม่าน โกลาหลขึ้นมา จะต้องมีแผนจัดการเฉพาะหน้าอย่างไร
เฮียหมง