วันที่ 12 ตุลาคม พล.ต.ต.ทวีชัย วิริยะโกศลรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิปคอปเตอร์จากกองบินตำรวจ ตชด. 31 ค่ายเจ้าพระยาจักรี จ.พิษณุโลก เพื่อสำรวจเส้นทางการจราจร และพื้นที่น้ำท่วมทั้งพบว่าพื้นที่ จังหวัด 9 จังหวัด ภาคเหนือตอนล่างในเขตรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 โดยพบว่าพื้นที่ จ.พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ และอุทัยธานี ยังคงมีน้ำท่วมหนัก กระจายไปหลายอำเภอ ของจังหวัดนั้น ๆ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ในพื้นที่ ทางรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้ นำเครื่องอุปโภคบริโภค ไปช่วยเหลือประชาชนตามคำร้องขอ ที่บริเวณ ต.หนองไผ่แบน อ.เมือง จ.อุทัยธานี กว่า 100ครอบครัว หลังติดเกาะไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้เนื่องจากถูกน้ำล้อมรอบ บริเวณบ้านพักน้ำท่วมสูง เกือบถึงชั้น 2 ของบ้าน บางจุดน้ำท่วมมิดหลังคา ทำให้มีการมาพักรวมกันในบ้านเพื่อนบ้านที่ยังพอพักอาศัยให้พ้นน้ำได้ ทำให้แต่ละบ้านมีคนอยู่รวมกันร่วม 20 คน
จากนั้นได้บินสำรวจ พื้นที่น้ำท่วมที่ จ.นครสวรรค์ พบว่ามีสภาพน้ำท่วมหมดทั้งเมืองจนกลายเป็นทะเล ขณะที่สถานการณ์ในเขตเมืองนครสวรรค์ชุลมุนไปด้วยประชาชนที่นำเรือขนย้ายสิ่งของออกหลังจากน้ำเพิ่มขึ้นอีก หลังจากพนังกั้นน้ำ 3 ชั้น ที่เทศบาลนครนครสวรรค์ ลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ทำไว้เพื่อป้องกันน้ำเป็นชั้น ๆ ได้พังทลายหมดแล้ว ส่งผลให้น้ำกระจายเต็มเมือง จากฝั่งตะวันออกข้ามมาฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณห้าแยกบิ๊กซี มีประชาชนยืนรอเพื่อเขตไปเขตเมืองจำนวนมาก โดย ระดับน้ำสูง 30-50 เซนติเมตร และมีบางจุดระดับน้ำสูงกว่า2 เมตร
รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 กล่าวว่า ขณะนี้เขื่อนดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาความยาว 11 .5 กิโลเมตร ได้เกิดพังทลายขาดลง เมื่อวันที่ 10ตุลาคม กว่า 100 เมตร ส่งผลให้ไม่สามารถซ่อมแซมได้ แม้วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ยามน้ำเครื่องจักรกลขนใส่เรือเพื่อพยายามอุดรอยรั่ว แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้เนื่องจากกระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลแรง
ขณะที่ เฮลิปคอปเตอร์จากตำรวจและ ปภ.เตรียมลำเลียงผู้ป่วยหนักที่จะต้องใช้เครื่องช่วยหายในลำเลียงผู้ป่วยเดินทางมารักษาตัวที่โรงพยาบาลใน จ.พิษณุโลก และกรุงเทพมหานคร เนื่องจากไฟสำรองของโรงพยาบาลใกล้หมด และในช่วงค่ำ วันนี้ ไฟฟ้าจะต้องดับหมดทั้งเมืองนครสวรรค์
นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้ประกาศเตือนภัยให้อพยพ หลังจากประกาศภัยพิบัติฉุกเฉินเดือนก่อนหน้านี้แล้ว คือ ให้คนที่น้ำยังไม่ท่วมให้ขนของขึ้นชั้น 2 อพยพไปยังจุดใกล้สุดคือสนามกีฬาและศูนย์ราชการต่างๆ รวม 11 แห่ง โดยการสั่งอพยพเป็นการทำด้วยความสมัครใจ เพราะไม่ใช่แผ่นดินไหวหรือดินถล่ม แต่จะต้องอพยพเพื่อความปลอดภัย โดยรถทหาร รถเทศบาลฯรถอบจ. รถของทางหลวงชนบทให้ความสะดวกขนย้ายฟรี ไม่คิดค่าบริการไปยังจุดอพยพทั้ง 11 แห่ง ล่าสุดประชาชนกำลังทยอยออกจากตัวเมืองใจกลางย่านเศรษฐกิจ ขึ้นอยู่กับการสมัครใจ
นายชลิต พงศ์สิทธิศักดิ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า คำสั่งเตือนภัยที่ประกาศออกเมื่อวันนี้ เพื่อให้ประชาชนอพยพ แต่จังหวัดประกาศเขตภัยพิบัติฉุกเฉินไปก่อนหน้านี้แล้ว คือ พยามยามให้ทุกคนออกจากนอกพื้นที่น้ำท่วม เพราะน้ำยังเพิ่มระดับอยู่เฉลี่ย 1-1.5 เมตร ยังไม่มีแนวโน้มลดลง การอพยพทำด้วยความสมัครใจ เพราะไม่สามารถใช้กฏหมายบังคับได้ แต่ทุกคนจะต้องอพยพเพื่อความปลอดภัย เพราะไฟฟ้าถูกตัดทั้งเมืองค่ำคืนนี้ ดังนั้น หากใครเข้าออกบ้านก็อันตราย ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ขยายวงกว้างอีก จังหวัดได้จัดสถานที่รองรับการอพยพไว้จำนวน 2 หมื่นคน ในสถานที่ 11 แห่ง อาทิ โรงเรียนต่างๆ อนุบาล, อาชีวะ วัดศิริวงศ์ สถานกีฬากลาง ทางหลวงชนบท ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภาค6, โรงเรียนตำรวจภูธรนครสวรรค์ ฯลฯ
นายนรินทร์ สุวรรณธนะ ผู้อำนวยการแขวงการทางที่ 1 นครสวรรค์ เปิดเผยว่า สะพานสะพานเดชาติวงศ์ ถูกปิด 100% เพราะน้ำท่วมทะลักจากหน้าโรงแรมพิมานข้ามถนนสายเอเชียหมายเลข 32 จนระดับน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ผลให้น้ำท่วมบริเวณสี่แยกไฟแดงสะพานเดชาติวงศ์ หน้าบิ๊กซี จากรถเล็กผ่านได้ และรถใหญ่ก็ไม่ให้ผ่าน เพราะเจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพภาคที่ 3 กำลังกู้ถนนสายหลักให้ผ่านขึ้นเหนือไปได้ แม้ว่าสะพานจะไม่ถูกน้ำท่วม แต่ก็ถือว่า ปิดการจราจรไปโดยปริยาย เพราะทหารขอพื้นที่กู้ถนนคืน โดยนำกล่องหินวางริมถนนสายเอเชียทั้งสองฝั่ง โดยทหารจะขอเวลากู้ถนน 1 วันคือ วันที่ 13 ตุลาคม เป็นอย่างต่ำ จากนั้นค่อยประเมินกันอีกครั้งว่า เสร็จหรือไม่
///
ชมภาพวีดีโอ
[media id=106 width=480 height=360]