นายไพฑูรย์ แตงสมบูรณ์ เกษตรกรหมู่ที่ 8 ตำบลวัดพริก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ลงทุนจ้างแรงงาน จำนวน 15 คน ลงไปเก็บเกี่ยวข้าวโดยการเกี่ยวมือในนาข้าวพื้นที่ 17 ไร่ ของตนเองที่มีน้ำท่วมขังในระดับสูงจนรถเกี่ยวข้าวไม่สามารถลงไปเก็บเกี่ยวในแปลงนาได้ ก่อนที่จะลำเลียงข้าวที่เกี่ยวได้ทั้งหมดขึ้นมาให้รถเกี่ยวข้าวทำการนวดรีดเอาเมล็ดข้าวเปลือกออกมาจากรวงข้าวอีกครั้ง บนถนนเลียบคลองชลประทาน ซึ่งเป็นการเพิ่มขั้นตอนและเสียค่าใช้จ่ายที่ต้องจ้างแรงงานเพิ่ม
นายไพฑูรย์ บอกว่า ต้องจ่ายค่าจ้างให้กับแรงงาน 15 คนๆละ 250 บาท ต่อวันและใช้เวลาในการเก็บเกี่ยวถึง 3 วัน จึงจะเก็บเกี่ยวข้าวในแปลงนาเนื้อที่ 17 ไร่ได้ทั้งหมด ซึ่งต้องจ่ายค่าแรงให้กับคนงานที่รับจ้างเกี่ยวข้าวนี้เป็นจำนวนเงิน 12,500 บาท ขณะเดียวกันยังต้องจ่ายเงินให้กับค่ารถเกี่ยวข้าวที่จ้างมานวดข้าวหลังจากที่แรงงานเก็บเกี่ยวมาแล้วอีกประมาณ 5,000 บาท ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นจากปกติเกือบ 1 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรรายดังกล่าวมั่นใจว่าจะมีเงินเหลือจากการนำข้าวไปขายหรือร่วมโครงการรับจำนำข้าวนาปีกับรัฐบาล เนื่องจากข้าวที่ตนเองปลูกเป็นข้าวพันธุ์ พิษณุโลก 2 ซึ่งราคารับจำนำตามที่รัฐบาลประกาศ ข้าวเปลือกความชื้นไม่เกิน 15 เปอร์เซ็นต์ ราคาสูงถึงตันละ 15,000 บาท และข้าวที่เก็บเกี่ยวอยู่ในระยะสุกพอดีซึ่งคาดว่าจะได้ราคาสูงและมีเงินเหลือจากการที่ลงทุนจ้างแรงงานเก็บเกี่ยวเพิ่มในครั้งนี้
ทางด้านสำนักงานการค้าภายในจังหวัดพิษณุโลก ได้สรุปข้อมูลการรับจำนำข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2554 มีเกษตรกรนำข้าวเปลือกเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 10 ตุลาคม 2554 แล้ว จำนวน 98 ราย ปริมาณข้าวเปลือก 740 ตัน โดยมีโรงสีในจังหวัดพิษณุโลกร่วมโครงการกับรัฐบาลขณะนี้ 17 แห่ง และทุกโรงสีที่เข้าร่วมโครงการจะมีป้ายติดไว้ที่ด้านหน้าโรงสีอย่างชัดเจนเพื่อให้เกษตรกรสังเกตได้ง่าย และป้องกันการเข้าใจผิดในการนำข้าวเปลือกเข้าร่วมโครงการกับรัฐบาล