วันนี้( 6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครสวรรค์ สถานการณ์น้ำท่วมในค่ำคืนนี้เป็นไปอย่างขยายวงกว้าง โดยเฉพาะที่บริเวณหมู่บ้านศรีมาย หมู่ 13 ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ หลังจากน้ำเข้าท่วมหนักทั้งหมู่บ้านกว่า 300 หลังคาเรือน ระดับน้ำบางจุดสูงสุดกว่า 2 เมตร ทำให้ ทั้งหมู่บ้านกลายเป็นเมืองบาดาล ประชาชนแต่ละครัวเรือน ต่างนำสิ่งของมีค่า เครื่องใช้ไฟฟ้า ออกมาจากบ้านของตนเองมาอยู่ที่สูงอย่างต่อเนื่อง เพราะคิดว่าค่ำคืนนี้ปริมาณน้ำจะสูงขึ้นอีก ประกอบกับจะมีน้ำจากจังหวัดกำแพงเพชรไหลสมทบ อาจไม่ปลอดภัยต่อตนเองและครอบครัวได้ ทำให้บรรยากาศหน้าทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งเป็นบริเวณถนนสายเอเชียขาล่อง ค่อนข้างวุ่นวายและโกลาหล เนื่องจากมีประชาชนได้ขนของออกมาทั้งคืน ส่งผลให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดยาวกว่า 10 กม.เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.นครสวรรค์ ต้องมาคอยอำนวยความสะดวกให้กับรถที่สัญจรไปมา
เช่นเดียวกับหมู่บ้านฟิสซิ่งปาร์ก ซึ่งเป็นหมู่บ้านใกล้เคียงกัน ยังพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในบ้าน เฝ้าทรัพย์สินในบ้านไว้ เนื่องจากเกรงว่าจะมีโจรน้ำจืดจะมาลักขโมยสิ่งของได้ โดยไม่สนใจว่าระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตรก็ตาม ทั้งที่บริเวณคอสะพานทางเข้าหมู่บ้านได้ถูกน้ำกัดเซาะเสียหายอย่างหนัก ระดับน้ำในคลองสูงขึ้นชั่วโมงละ 10 ซม. เสี่ยงที่จะขาดได้ เนื่องจากน้ำไหลแรง นอกจากนี้ที่บริเวณหมู่บ้านเอื้ออาทร หมู่ 13 ต.วัดไทร อ.เมือง ระดับน้ำได้ท่วมกว่า 700 หลังคาเรือนเช่นกัน เนื่องจากระดับได้ท่วมขยายวงกว้างไปในทุกๆ ชม.จนทำให้ชาวบ้านต้องเร่งขนของและทรัพย์สินมีค่าออกมาจากตัวบ้านใส่รถบรรทุกไปเก็บไว้บริเวณที่สูง และบ้านญาติของตนเอง นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้รับรายงานน้ำยังไหลเข้าท่วมหมู่บ้านดรีมแลนด์ที่อยู่ใกล้เคียงกันอีกด้วย ในขณะที่บริเวณริมแม่น้ำน่านเจ้าพระยา ทางเทศบาลนครนครสวรรค์ ได้เสริมแนวหินคลุกสูงกว่า 4 เมตร และเสริมกระสอบทรายไว้บริเวณหินคลุกอีกชั้นหนึ่ง เพื่อรองรับปริมาณน้ำแม่น้ำปิงที่จะสูงขึ้นอีกในวันพรุ่งนี้
ต่อมาเวลาประมาณ 21.30 น.ของวันเดียวกัน ได้เกิดคันดินกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณชุมชนรณชัย อ.เมืองนครสวรรค์ ได้ทรุดตัวลง ส่งผลให้แม่น้ำเจ้าพระยา ไหลเข้ามาในชุมชน ส่งผลให้ประชาชนที่อยู่ภายในชุมชนดังกล่าวจำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน ต่างรีบเก็บข้าวของย้ายออกจากชุมชนทันที ทำให้บรรยากาศในขณะนั้นเป็นไปอย่างโกลาหล ต่อมานายจิตเกษม นิโรจน์ธนรัท นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครสวรรค์ และเจ้าหน้าที่กล่าว 100 คน ได้ลำเลียงกระสอบทรายจำนวนกว่า 5,000 กระสอบ มาอุดรอยรั่วบริเวณคันดิน ซึ่งต้องเวลานานกว่า 30 นาทีจึงจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในที่สุด พร้อมทั้งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังแนวคันดินตลอด 24 ชม.เนื่องจากเกรงว่าปริมาณที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้คันดินกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาเสียหาย และอาจทะลักเข้าเศรษฐกิจได้ นายจิตเกษม นิโรจน์ธนรัท นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครสวรรค์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางเทศบาลนครนครสวรรค์ กำลังเฝ้าระวังจุดสุ่มเสี่ยงที่ปริมาณจะทะลักเข้ามาตลอด 24 ชม. โดยเฉพาะค่ำคืนนี้จนถึงพรุ่งนี้เช้าที่จะมีมวลน้ำก้อนใหญ่ จาก จ.กำแพงเพชร ไหลมาถึง จ.นครสวรรค์ ส่งผลระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง
////