เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 3 ต.ค. พ.ต.ต.เอกชัย พรมทอง พนักงานสอบสวน(สบ.2)สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งเหตุมีคนร้ายได้ลักลอบใช้ถังแก๊สพยายามจะเจาะเซฟของตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่หน้าโรงเรียนอนุบาลพิษณุโลก ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรายให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับพร้อมรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกุล ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.สมชาย เกิดช้าง ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ร.ต.อ.สุนันทา สมอุโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน จ.พิษณุโลก ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าหลังของตู้กดเงินเอ็มทีเอ็ม ของธนาคารกรุงเทพ พบร่องรอยจของคนร้ายใช้แก๊สตัดแม่กุญแจออกเปิดเข้าไปถึงต็เซฟที่เก็ฐเงินสดเอาไว้ ซึ่งคนร้ายยังพยายามที่จะใช้แก๊สตัดตู้เซปดังกล่าวและมีเศษเหล็กของตู้เซฟตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 1 ชิ้น แต่เนื่องจากระบบความปลอดภัยของตู้เซฟมีความแน่นหนา คนร้ายจึงไม่สามารถนำเงินสดจากในตู้เซฟ ที่มีอยู่จำนวนกว่า 1 ล้านบาทได้ นอกจากนี้เทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในห้องน้ำของโรงเรียนใกล้กับที่เกิดเหตุพบถังอ๊อกซิเจน จำนวน 1 ถัง และถังแก๊สหุงต้มจำนวน 1 ถังซุกซ้อนอยู่ในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบและเก็บรอยนิ้วมือไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายประดิษฐ์ พลายสายทอง ผู้จัดการหัวหน้าศูนญ์เงินสดธนาครกรุงเทพ จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายของวันนี้เป็นวันที่ 2 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของธนาคารต้องนำเงินสดมาเติมที่ตู้เอทีเอ็มดังกล่าว จากนั้นเมื่อเวลา 02.50 น.พนักงานได้รับแจ้งว่าตู้เอทีเอ็มดังกล่าว ได้เกิดสัญญาณไฟขัดข้องและดับไป ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้แอะใจ จนกระทั่งเมื่อช่วงสายของวันนี้มีครูอาจารย์ของโรงเรียนอนุบาลพิษณุโลก แจ้งว่ามีคนร้ายแอบเจาะด้านหลังของตู้เอทีเอ็ม หวังลักเงินดังกล่าว แต่ยังไม่สำเร็จ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบทันที
ด้านพล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกูล ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายได้เตรียมถังออกซิเจนมาซุกซ่อนไว้ที่ห้องน้ำโรงเรียนอนุบาลพิษณุโลก เพื่อหวังที่จะเจาะตู้เอทีเอ็มมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็มีผู้มาพบเห็นก่อน แต่ก็ไม่คิดว่าเพียง 3 วันเท่านั้น คนร้ายดังกล่าวกลับหึกเหิม นำถังแก็สและออกซิเจน มาทำการตัดเจาะอีก แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากตู้เอทีเอ็มเป็นเหล็กหน 1 นิ้ว 2 ชั้น ทำให้ต้องใช้เวลานาน ซึ่งคาดว่าคนร้ายจะลงมือในค่ำคืนนี้อีกครั้ง แต่ก็ถูกอาจารย์ภายในโรงเรียนมาพบเห็นก่อน จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบทันที เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน เพราะจะต้องช่วยกันขนถังแก็สและถังออกซิเจนหนักข้ามรั่ว มาลงมือดังกล่าว หรือไม่ก็จะเป็นคนภายในที่ทราบความเคลื่อนไหวของโรงเรียนอนุบาลพิษณุโลก เป็นอย่างดี ก่อนที่จะกล้าลงมือเจาะตู้เอทีเอ็มดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
////
ชมวีดีโอ
[media id=92 width=480 height=360]