นายน้อย ม่วงทอง อายุ 50 ปี ชาวบ้านหาดใหญ่ หมู่ 4 ต.หนองแขม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนเองและคนในหมู่บ้าน ต้องได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังจากชลประทานใช้เขื่อนนเรศวร ผันแม่น้ำน่านออกสู่ ต.หนองแขม เพื่อรักษาเขตเศรษฐกิจของเมืองพิษณุโลก ทำให้มีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านพักอาศัย ประกอบกับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก น้ำไม่สามารถระบายออกได้ และขณะนี้น้ำเริ่มเน่าเหม็น จึงอยากขอร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ สูบน้ำออกจากหมู่บ้านเป็นการเร่งด่วน
นายสุพจน์ หวาเกตุ ผู้ใหญ่บ้านม.4 ต.หนองแขม เปิดเผยว่า หลังจากที่น้ำเริ่มเข้าท่วมในหมู่บ้าน ตนเองติดต่อขอเครื่องสูบน้ำของราชการ จะนำมาสูบน้ำออกจากหมู่บ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน แต่กลับได้รับคำตอบว่า เครื่องสูบน้ำ ได้ระดมไปช่วยในเมืองหมดแล้ว ขณะนี้ทำได้เพียง ระดมรถไถนาของชาวบ้าน กว่า 30 คัน มาตั้งเครื่อง สูบน้ำออก ทั้งวัน ทั้งคืนตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่ง นายสุพจน์ กล่าวว่า หากไม่สูบ น้ำจะท่วมสูง จนชาวบ้านไม่สามารถอยู่อาศัยได้แน่นอน แต่ตอนนี้ติดปัญหาไม่มีน้ำมันเติมรถไถนา เนื่องจากน้ำมันที่ใช้เรี่ยไรมาจากชาวบ้าน ที่ไม่มีรายได้ ดังนั้นจึงอยากขอความเห็นใจ เพราะชาวบ้านถูกน้ำท่วมนาข้าวเสียหายไปหมดแล้ว หากจะต้องถูกน้ำท่วมบ้านจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ จากการรักษาเขตเศรษฐกิจของเมือง ก็ดูเหมือนจะเหมือนซ้ำเติมความโชคร้ายเกินไป อย่างน้อยที่สุด ก็ขอสนับสนุนน้ำมัน ในการเติมรถไถนาที่ใช้สูบน้ำออกจากหมู่บ้านบ้างก็ยังดี
ขอบคุณภาพข่าว กรกนก จันทร์นิเวศน์ ไอเอ็นเอ็นพิษณุโลก
แสดงความคิดเห็น