รศ.ดร.กรกนก อิงคนินันท์ หัวหน้าศูนย์เทคโนโลยีสมุนไพร ภาควิชาเภสัชเคมีและเภสัชเวท คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า ได้ทำการศึกษาพัฒนา “พรมมิ” เพื่อใช้เป็นสมุนไพรบำรุงความจำ โดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ผลการศึกษา พบว่า สารสกัดที่ได้จากต้นพรมมิมีสารซาโปนิน (saponins) สามารถชะลอการเสื่อมของเซลล์สมอง มีผลกระตุ้นความจำและการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีฤทธิ์ในการป้องกันการถูกทำลายของเซลล์ประสาทด้วย
ทั้งนี้คณะผู้วิจัย ร่วมกับ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ศึกษาผลทางคลินิกของพรมมิ ในอาสาสมัครที่ร่างกายปกติ อายุ 55 – 70 ปี จำนวน 60 คน โดยศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ได้ยาหลอกและได้สารสกัดพรมมิ ขนาด 300 และ 600 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 3 เดือน พบว่า สารสกัดพรมมิช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว เพิ่มการตื่นตัวต่อสิ่งเร้า มีสมาธิมากขึ้น เพิ่มความสามารถในการเรียนรู้และความจำ คลายอาการซึมเศร้า ไม่พบอาการพิษและภาวะข้างเคียงใดๆในอาสาสมัคร
ปัจจุบันได้มีการจดอนุสิทธิบัตรแล้ว ซึ่งคณะผู้วิจัยได้ผลิตยาเม็ดขนาด 300 มิลลิกรัม เป็นยาต้นแบบที่มีคุณสมบัติทางกายภาพที่เหมาะสมและมีความคงตัวดี ทั้งนี้มหาวิทยาลัยนเรศวรพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดสมุนไพรพรมมิ ในรูปแบบยาเม็ด ให้แก่ องค์การเภสัชกรรม โดยเตรียมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตตั้งแต่ การเตรียมสารสกัด การผลิตเป็นยาเม็ด และการควบคุมคุณภาพ โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งเน้นให้ผลิตภัณฑ์ยามีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน ประชาชนผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพในราคาสมเหตุผล
รศ.ดร.กรกนก กล่าวปิดท้ายว่า การรับประทานอาหารเสริมพรมมิ ควรรับประทาน 300 มิลลิกรัมต่อวัน เมื่อรับประทานเพียง 2 เดือน เห็นผลได้ชัดเจน และหากไม่รับประทานเป็นยาเม็ดก็สามารถนำสมุนไพรพรมมิ มารับประทานเป็นผักสดกับน้ำพริก ประมาณวันละ 50 กรัมก็ช่วยบำรุงสมองได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามผลงานวิจัยนี้ได้นำไปใช้ประโยชน์เพื่อการต่อยอดเชิงพาณิชย์ ช่วยส่งเสริมสมุนไพรไทย ลดการนำเข้าสมุนไพรจากต่างประเทศต่อไปในอนาคต ผู้สนใจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดสมุนไพรพรมมิ ในรูปแบบยาเม็ด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การเภสัชกรรม โทรศัพท์ 02-2038000 หรือCall Center 1648