วันนี้(วันที่ 15 ก.ย. )ผู้สื่อข้าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในเมืองพิษณุโลก ล่าสุด เวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา ระดับน้ำน่าน ได้ปรับเพิ่มระดับขึ้นอีกต่อเนื่อง ล่าสุด ระดับน้ำอยู่ที่ 10.81 เมตรแล้ว ระดับน้ำที่ไหลผ่าน 1677 ล.ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งทำให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเสริมกระสอบทรายกั้นแม่น้ำน่าน ป้องกันล้นตลิ่ง ทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณย่านเศรษฐกิจ ชุมชน และหน่วยงานราชการ ถึงว่าทางจังหวัดพิษณุโลก จะได้รับรายงานจากชลประทานว่า จะมีฝนตกใต้เขื่อน และจะมีน้ำเหนือลงมาอีก 1 ก้อนใหญ่ก็ตาม ซึ่งจะไหลลงมาถึงตัวเมืองพิษณุโลก ภายใน 30 ชม. ทางเทศบาลนครพิษณุโลก ได้ประสานกับทหารกองทัพภาคที่ 3 เร่งเสริมกระสอบให้มากที่สุด และสามารถรองรับน้ำได้ถึง 10.90 เมตรอย่างแน่นอน
นอกจากนี้น้ำทางเขื่อนแควน้ำบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ ที่ขณะนี้รองรับน้ำเต็มพิกัด 100 เปอร์เซ็นแล้ว ทางเขื่อนจำเป็นต้องเปิดประตูระบายน้ำทุกบานเพื่อระบายน้ำเหนือยเขื่อนโดยเร็ว ทำให้ปริมาณน้ำแม่น้ำแควน้อยที่ไหลผ่าน อ.พรหมพิราม เออล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ที่ติดอยู่ริมแม่น้ำ โดยเฉพาะ ถนนสายพิษณุโลก-พรหมพิราม หน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 หมู่ 1 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพีราม น้ำได้ไหลข้ามถนนระยะทางประมาณ 800 เมตร มีน้ำท่วมสูงถึง 1.20 เมตร ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทางพ.ต.อ.เชิดศักด์ พูลเผ่าดำรงตค์ ผกก.สภ.พรหมพิราม ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยอำนวยความสะดวก ตอลด 24 ชั่งโมง ส่วนนักเรียนที่เรียนอยู่ในเขตเมืองพิษณุโลก ก็ได้เริ่มถยอยกลับบ้านกันแล้ว เนื่องจากเกรงว่าจะไม่สามารถขับขี่รถกลับบ้านได้
ด้าน นายสมจิต ฮับหลี อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/4 หมู่ 1 ต.ท่าช้าง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้ทำนาเอาไว้ 20 ไร่ ขณะนี้ข้าวพึ่งจะออกร่วงไม่สามารเก็บเกี่ยวได้ แต่เมื่อสองวันก่อนนหน้านี้น้ำจากแม่น้ำแควน้อยได้ไหลเข้าท่วมนาข้าว จึงต้องรีบเก็บเกี่ยวข้าวให้ได้มาที่สุด ซึ่งข้าวที่เก้บเกี่ยวได้มาในวันนี้ได้มาไม่ถึงเกวียนนอกนั้นถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ทำให้ตนเองต้องขาดทุนกับการทำนาในครั้งนี้หลายหมื่นบาท
////
มีภาพวีดีโอครับ
[media id=57 width=480 height=360]