เวลา 10.30 น.วันที่ 14 กันยายน 2554 นายสมหวัง ปานสุขาร หัวหน้าโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เปิดเผยถึงสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนที่ในตกเหนือเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนว่า ขณะนี้ระดับกักเก็บน้ำในเขื่อนสูงเกินระดับปกตินับแต่สร้างเขื่อน ผลให้น้ำที่เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนเกินระดับกักเก็บน้ำ คือ 100.22% ของความจุอ่างทั้งหมด หรือคิดเป็น 941.04 ลบ.ม. อยู่ในระดับกักเก็บ 130.04 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จากความสูงสันเขื่อน(ระดับสูงสุด) 132.5 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
จากระดับน้ำเหนือเขื่อนเกินระดับกักเก็บ เกือบแตะระดับสูงสุดที่เขื่อนรับไว้ได้ ทำให้ต้องมีการปล่อยน้ำออกบ้าง มิฉะนั้นน้ำจะล้นสันเขื่อน ขณะนี้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนแควน้อยฯวันละ 42 ล้านลบ.ม. และต้องระบายน้ำออกวันละ 31 ล้านลบ.ม.ทำให้เขื่อนแควน้อยฯยังพอมีช่องว่างให้บริหารจัดการอยู่บ้าง แต่ยอมรับว่า วันนี้ต้องบริหารจัดการน้ำเป็นรายชั่วโมง เพราะต้องป้องกันน้ำท่วมในตัวเมืองพิษณุโลก ที่จะควบคุมระดับน้ำในแม่น้ำน่านช่วงตัวเมืองพิษณุโลกให้อยู่ระดับ 1,540 ลบ.ม ต่อวินาที แต่ยืนยันว่า บริเวณแนวตลิ่งตัวอำเภอเมืองพิษณุโลก สามารถรับน้ำที่ปล่อยได้สูงสุด 1,600 ลบ.ม. ต่อวินาที ฉะนั้นวันนี้ แม่น้ำน่านในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก จะไม่ล้นตลิ่ง เพราะมีกระสอบทรายป้องกันตลิ่ง และจะพยายาม บริหารน้ำเขื่อนแควน้อยไม่ให้ท่วมในตัวเมืองแน่นอน
ทั้งนี้ น้ำจากเขื่อนแควน้อย จะระบายผ่านแม่น้ำแควน้อยผ่านอ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก และไหลมาบรรจบแม่น้ำน่านที่ต.จอมทอง อ.เมืองพิษณุโลก ส่งผลให้แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเทศบาลนครพิษณุโลกยังคงระดับสูงสุดต่อเนื่อง ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ได้ลดการปล่อยน้ำลงเพื่อช่วยตัวเมืองพิษณุโลกไม่ให้วิกฤติ จากเดิมเขื่อนสิริกิติ์ระบายน้ำออกแม่น้ำน่านวันละ 65 ล้านลบ.ม.ปัจจุบัน เหลือวันละ 57 ล้านลบ.ม.
/////
มีวีดีโอครับ
[media id=55 width=480 height=360]