วันที่ 28 สิงหาคม 2554 นายมานพ สายอุ่นใจ หน.ศ.ป.ย.ที่ 2 พิษณุโลก นำกำลังพล ร้อย.ลว.ไกล ที่ 4 และ กอ.รอน.ภาค 3 ออกฝึกการลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ และป้องกัน/ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสองฝั่งลำน้ำภาค บ้านบ่อภาค ต.บ่อภาค อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก แต่ไม่สามารถปฏิบัติได้เนื่องจากลำน้ำภาคมีน้ำขึ้นสูง ไหลเชี่ยวกว่าปกติไม่สามารถข้ามได้ จึงยกเลิกภารกิจ ต่อมาได้ร่วมกันพิจารณาพื้นที่ที่มีการลักลอบตัดไม้ ฯ พร้อมทั้งตกลงใจใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขากระยาง รอยต่อ อ.วังทอง – อ.ชาติตระการ – อ.นครไทย บริเวณ บ้านซับสมุทร ต.บ้านกลาง อ.วังทอง,บ้านน้ำตาก ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ พบว่ามีการลักลอบตัดไม้สัก ขนาดเส้นรอบวงประมาณ 50 ซ.ม.เป็นจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วไป
ต่อมาเวลาประมาณ 11.20 น. เจ้าหน้าที่ พบบุคคลเป็นชาย จำนวน 3 คนช่วยกันใช้เลื่อยโซ่ยนต์ตัดโค่นต้นไม้ประดู่จำนวน 1 ต้น อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง หมู่ 17 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก จึงเฝ้าสังเกตการณ์พร้อมทั้งบันทึกภาพและแสดงตัวเข้าจับกุมได้จำนวน 2 คนทราบชื่อภายหลังคือนายอาทิตย์ ฤทธิศักดิ์ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 21 หมู่ 17ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก นายจักรกฤษ พังพรมราช บ้านเลขที่ 21/1 หมู่ 17 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ตรวจบริเวณที่เกิดเหตุพบเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 เครื่อง และอุปกรณ์ต่างๆรวม 16 รายการ ไม้ประดู่จำนวน 1 ท่อน
นายอาทิตย์ ฤทธิศักดิ์ รับสารภาพว่าตนเองร่วมกับนายเกรียง ไม่ทราบนามสกุล (หลบหนี)ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงและนายจักรกฤษ พังพรมราช ช่วยกันนำเลื่อยโซ่ยนต์เครื่องดังกล่าวตัดโค่นต้นประดู่ 1 ต้น โดยมีผู้ว่าจ้างชื่อนายไอซ์ ไม่ทราบนามสกุล บ้านอยู่บ้านน้ำตากมีภรรยาเป็นคนภาคใต้ให้ทำการแปรรูปไม้ทำเป็นแม่บันได ได้ค่าจ้างวันละ 500 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย