จ.พิจิตร พื้นที่น้ำท่วม คือ อ.สามง่าม 40,000 ไร่ อ.โพธิ์ประทับช้างจำนวน 16,000 ไร่, อ.บึงนาราง อ.โพทะเล 13,422 ไร่ อ.อำเภอ อ.ตะพานหิน อ.บางมูลนาก 33,300 ไร่ รวมทั้งสิ้น 102,722 ไร่จ.นครสวรรค์ พื้นที่น้ำท่วม คือ อ.เมือง 10,511 ไร่ อ.ชุมแสง จำนวน 14,159 ไร่, อ.เก้าเลี้ยว จำนวน 500 ไร่ อ.โกรกพระ 2,135 ไร่ รวมทั้ง 4 อำเภอ จำนวน 27,305 ไร่
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลห่วงประชาชน จำเป็นติดตามปัญหาอุทกภัย เร่งบูรณาการแก้ไขพร้อมตรวจสอบความเสียหายเร่งด่วน ณ.วันนี้ยังให้การช่วยเหลือ 606 บาทต่อไร่ตามระเบียบไปก่อน ส่วนรัฐบาลจะเพิ่มเท่าไหร่ก็ว่ากันภายหลัง ความผิดพลาดในปีนี้คือทางกระทรวงเกษตรฯได้ขอให้เกษตรกรเลื่อนการทำนาออกไป 1 เดือน พอใกล้ฤดูการเก็บเกี่ยวปรากกฎว่าน้ำมาพอดีทำให้ผลผลิตเสียหายจำนวนมาก
พื้นที่ประสบอุทกภัยคงเป็นพื้นที่เดิม เร็วๆนี้ จะมีร่องความกดอากาศพาดผ่านภาคเหนือ ฝนยังคงแพร่กระจายพื้นที่เดิม ผลกระทบจึงเกิดซ้ำ การแก้ไขปัญหาระยะยาว ลุ่มน้ำยมได้พูดมานาน แต่ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาลุ่มน้ำยมทั้งระบบได้ กรมชลประทานมองการแก้ไขปัญหา คือ แบ่งเป็นลุ่มน้ำยมตอนบน ลุ่มน้ำยมตอนล่าง เนื่องจากทั้งสอง เป็นพื้นที่แตกต่างกัน ปัจจุบันรัฐบาลว่าจ้าง มหาวิทยาลัยมหิดลสำรวจทำประชาพิจารณาความคิดเห็นของประชาชน เพื่อแก้ปัญหาลุ่มน้ำยม เพราะประชาชนในลุ่มน้ำยมทุกข์สาหัสกับน้ำท่วมมานานกว่า 20 ปี
ถ้าแก้ปัญหาลุ่มน้ำยม โดยสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ เขื่อนแก่งเสือเต้น 1 แห่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่กักเก็บกักน้ำได้ 1,175 ล้านลูกบากศ์เมตร แต่ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน 900 ครัวเรือน มูลค่าการก่อสร้างเขื่อนอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท กรณีที่ 2 สร้างเขื่อนขนาดเล็กหรืออ่างเก็บน้ำ ลุ่มน้ำยมตอนบนกับลุ่มน้ำยมตอนล่าง เก็บน้ำได้ 670 ล้านลูกบากศ์กเมตร (ครึ่งของเขื่อนแก่งเสือเต้น) แต่ค่าก่อสร้างแพงกว่าเขื่อนแก่งเสือเต้นมาก แต่ผลกระทบด้านมวลชนน้อยกว่ามากทั้งนี้รัฐบาลคงต้องชั่งน้ำหนักดูว่าจะทำอย่างไร แนวทางที่ 2 ้ก็ความเป็นไปได้สูง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่ม หากทำ ก็ต้องขอเวลาศึกษา 2ปี
จากนั้น รมว.เกษตรฯได้เดินทางไปเยี่ยมและมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่บ้านวังขี้เหล็ก ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ก่อนเดินทางไปตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมที่จ.พิจิตรต่อไป