วันที่ 15 สิงหาคม 2554 ชาวนาในเขตต.หนองแขม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลกกว่า 100 คน ระดมเครื่องสูบน้ำกว่า 40 เครื่อง เรียงอยู่ขอบถนน คันนา เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากนาข้าวผืนสุดท้าย ก่อนจะท่วมเสียหายทั้งหมด เรียกร้องรัฐพิจารณาสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นแก้ปัญหาระยะยาว
นางพะยอม เนียมเหลี่ยม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.หนองแขม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า นาข้าวในเขตตำบลหนองแขม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ประสบปัญหาน้ำที่ถูกระบายจากจังหวัดสุโขทัย หลากเข้าท่วมนาข้าวนับพันไร่ ซึ่งเป็นผืนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ ชาวนาพยายามช่วยเหลือตนเองด้วยการระดมรถไถนาติดเครื่องสูบน้ำออกจากนาข้าว เป็นระยะเวลา 3 วัน ในแต่ละวัน รถไถ 1 คันใช้น้ำมันไม่ต่ำกว่า 15 ลิตร รวมแล้วเป็นเงินกว่า 18,000 บาท ต่อวัน ซึ่งชาวนาต้องเรี่ยไร ใช้เงินส่วนตัว บางรายต้องกู้หนี้ยืมสิน มาจ่ายเป็นค่าน้ำมัน เนื่องจากไม่มีหน่วยงานใด ๆ เข้ามาให้ความช่วยเหลือ
นางวรรณวิภา จินดาพงษ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/1 หมู่ 8 ต.หนองแขม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ตนเองทำนาทั้งสิ้น จำนวน 40 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายไปแล้วกว่าครึ่ง ที่เหลือหากพอจะเก็บเกี่ยวได้ ก็จะยังพอมีทุนที่จะทำนาต่อได้ แต่ก็มาถูกน้ำที่ระบายมาจากจังหวัดสุโขทัยเข้าท่วมซ้ำอีก อีกทั้งยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแล หรือตรวจสอบความเสียหาย ทำให้ตนเองเกิดความคับแค้นใจ เป็นอย่างมาก
นายเปรียง สายทองคำ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 8 ต.หนองแขม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า นาข้าวของตนเองกว่า 50 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ไม่มีรายได้ มีแต่หนี้สินที่ลงไปไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ขณะนี้มีความหวังจากเงินชดเชยของรัฐบาลที่จะจ่ายให้กับชาวนาเท่านั้น โดยได้ขอฝากไปยัง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ให้ดูแลปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาเป็นปัญหาเร่งด่วน พิจารณาเงินชดเชยที่จะจ่ายให้กับชาวนาโดยเร็ว และขอให้ไม่ต่ำกว่าไร่ละ 2 พันบาท เพราะที่ผ่านมา ไร่ละ 606 บาท แม้แต่ค่าพันธุ์ข้าวปลูกก็ยังไม่พอ นายเปรียงยังได้กล่าวอีกว่า ขอให้รัฐบาลเร่งพิจารณามาตรการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่โดยเร็ว โดยเฉพาะการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ที่เชื่อว่าหลายจังหวัดในเขตลุ่มน้ำยมจะได้ประโยชน์ แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ได้