วันที่ 14 สิงหาคม 2554 สถานการณ์แม่น้ำน่านที่เพิ่มระดับสูงมากในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ขณะนี้ ถือได้ว่าพ้นวิกฤติแม่น้ำน่านล้นตลิ่งแล้ว ด้วยการบริหารจัดการน้ำของชลประทานจังหวัดพิษณุโลก ที่ใช้การระบายแม่น้ำน่านปริมาณมาก โดยเขื่อนนเรศวร อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ผ่านคลองชลประทานโครงการพลายชุมพล ทำให้แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านตัวเมืองพิษณุโลกมีระดับสูงสุด 9.71 เมตร ไม่ถึงจุดวิกฤติ 10 เมตร
สภาพแม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านอ.เมืองพิษณุโลก ขณะนี้ถือว่าสูงมากในรอบหลายปี ทางวิ่งออกกำลังกายด้านล่างสวนชมน่านเฉลิมพระเกียรติจมใต้แม่น้ำน่าน สภาพเรือนแพในแม่น้ำน่านก็ลอยสูงเกือบถึงตลิ่ง ผู้อาศัยในแพต้องคอยปรับระดับเชือกผูกแพขึ้นลงลงตลอดเวลา ขณะที่ชลประทานพิษณุโลกและเทศบาลนครพิษณุโลกได้ตั้งเครื่องสูบน้ำ สูบน้ำในท่อระบายน้ำในเขตเทศบาลลงสู่แม่น้ำน่านหลายจุด
นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า เนื่องจากเกรงว่าแม่น้ำน่านในเขตตัวเมืองพิษณุโลกหลายจุดจะได้รับผลกระทบจากแม่น้ำน่านล้นตลิ่ง ชลประทานได้ใช้เขื่อนนเรศวรในการบริหารจัดการน้ำ โดยปล่อยน้ำลงคลองชลประทานโครงการพลายชุมพล ทำให้แม่น้ำน่านขึ้นสูงสุดในช่วงเวลา 21.00 น.วันที่ 13 สิงหาคม ที่ระดับความสูง 9.71 เมตร และเวลา 06.00 น.วันที่ 14 สิงหาคม แม่น้ำน่านมีความสูง 9.61 เมตร ถือว่าปลอดภัยสำหรับเขตเทศบาลนครพิษณุโลกและพื้นที่ต่ำในหลายตำบล และระดับแม่น้ำน่านจะทรงตัวในระดับนี้อีกระยะหนึ่ง
นายบรรดิษฐ์ เผยต่อว่า ที่น่าห่วงคือลุ่มน้ำยม ที่ขณะนี้ยังมีปริมาณน้ำจำนวนมากจากจังหวัดสุโขทัยกำลังไหลมาสู่อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ขณะนี้แม่น้ำยมที่อ.บางระกำมีระดับ 9.83 เมตร สูงกว่าจุดวิกฤติที่ 7.15 เมตร ทำให้น้ำท่วมวงกว้าง และยังคงจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และขังนานอีกร่วมเดือน เนื่องจากการระบายน้ำยมลงแม่น้ำน่านทำไม่ได้ นอกจากนี้ ในช่วงสัปดาห์หน้าร่องฝนจะพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง อยากแจ้งเตือนประชาชนในทุกลุ่มน้ำ ทั้งลุ่มน้ำแควน้อย ลุ่มน้ำวังทอง ลุ่มน้ำชมพู ที่อาจจะได้รับผลกระทบ